จากไชต์: ศูนย์กลางความรู้ประจำสำนักงาน ป.ป.ช.
จำนวนผู้เข้าชม: 125
|
ที่มา/ความเป็นมา พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 11 กำหนดว่า ส่วนราชการมีหน้าที่พัฒนาความรู้ในส่วนราชการ เพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ อย่างสม่ำเสมอ โดยต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารและสามารถประมวลผลความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเหมาะสมต่อสถานการณ์ รวมทั้งต้องส่งเสริมและพัฒนาความรู้ ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข้าราชการในสังกัดให้เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ และเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการให้สอดคล้องกับการบริหารราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน สอดคล้องกับหน้าที่และอำนาจของสำนักงาน ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 142 ที่กำหนดให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการหรือจัดให้มีการรวบรวม วิเคราะห์ ศึกษาวิจัย และเผยแพร่ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบและอันตรายของการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและ ภาคเอกชน ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการจัดให้มีระบบสารสนเทศการบริหารความรู้ (Knowledge Management) หรือที่เรียกว่า ระบบ KM ภายในองค์กร โดยเป็นระบบที่ส่งเสริมการจัดการความรู้ให้กับบุคลากรของสำนักงาน ป.ป.ช. ประกอบด้วย กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ อาทิ กิจกรรมพี่สอนน้อง กิจกรรมอบรมและศึกษาดูงานหลักสูตรต่างๆ เป็นต้น บทสรุปของการศึกษาดูงาน วีดีโอทัศน์นำเสนอเทคนิคและแนวทางในการทำงาน การเสวนา การอภิปราย รวมถึงบทความ รายงานวิจัย มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. และกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามภารกิจต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีนโยบายในการยกระดับสถาบันการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นสถาบันวิชาการต่อต้านคอร์รัปชั่นตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในอนาคต ซึ่งจำเป็นต้อง มีการปรับปรุงพัฒนาระบบการบริหารจัดการความรู้ให้มีความทันสมัย เป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ ด้านการทุจริต และสามารถเผยแพร่แก่สาธารณะ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ข้าราชการและประชาชน
|
 |
