จากไชต์: สำนักคดี
จำนวนผู้เข้าชม: 108
๑. ประเด็นหรือเรื่องในการมีส่วนร่วม
การมีส่วนร่วมในการดำเนินการร่างฟ้องคดีของพนักงานไต่สวนเจ้าของเรื่องสำนักคดีมีบทบาทและภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินการทางคดีหรือการดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ในชั้นศาลตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือสำนักงาน ป.ป.ช. มอบหมาย ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๗๗ วรรคสาม ได้กำหนดกรณีที่คณะกรรมการร่วมไม่อาจหาข้อยุติได้ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีความเห็นควรสั่งฟ้องคดี สำนักคดีมีหน้าที่ต้องดำเนินการฟ้องคดีอาญาแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยในการฟ้องคดีอาญาดังกล่าวนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้พยานหลักฐานที่ครบถ้วนและถูกต้องเพื่อประโยชน์แห่งการฟ้องคดี
โดยบางคดีเป็นคดีที่มีความยุ่งยากซับซ้อนมีเอกสารพยานหลักฐานจำนวนมาก หรือเป็นคดีที่ใกล้ขาดอายุความด้วยระยะเวลาร่างคำฟ้องที่มีอย่างจำกัด มีข้อเท็จจริงยุ่งยากซับซ้อนใช้เวลาในการศึกษาข้อเท็จจริงมากพอสมควร เพื่อให้สามารถฟ้องคดีได้ทันภายในอายุความ สำนักคดีโดยผู้ว่าคดีผู้รับผิดชอบสำนวน จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการประสานหรือขอความร่วมมือหรือให้พนักงานไต่สวนเจ้าของเรื่องมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการให้ข้อมูล ชี้ช่อง และพยานเอกสารที่สำคัญ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่เพียงพอและเป็นประโยชน์ต่อการร่างฟ้องคดีอาญาโดยเร่งด่วน
๒. สรุปข้อมูลของผู้มีส่วนร่วม
เมื่อสำนักคดีโดยผู้ว่าคดีผู้รับผิดชอบให้ดำเนินการฟ้องคดี ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วและได้ประสานสอบถามข้อมูลดังกล่าวจากพนักงานไต่สวนเจ้าของเรื่อง พนักงานไต่สวนเจ้าของเรื่องมีส่วนร่วมในการให้ถ้อยคำและยืนยันข้อเท็จจริงในคดีต่อผู้ว่าคดีและชี้ช่องพยานหลักฐานเพื่อให้ผู้ว่าคดีเข้าใจข้อเท็จจริงเพียงพอและสามารถจัดทำร่างคำฟ้องได้อย่างถูกต้องครบถ้วนและสมบูรณ์ภายในระยะเวลายื่นฟ้องคดี รวมถึงการมีส่วนร่วมในการเข้าเบิกความเป็นพยานต่อศาลด้วย
๓. ผลจากการมีส่วนร่วม
เมื่อผู้ว่าคดีผู้รับผิดชอบได้รับรายละเอียดข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องคดีหรือพยานหลักฐานอันสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการฟ้องคดีจากพนักงานไต่สวนเจ้าของเรื่องแล้ว ผู้ว่าคดีสามารถนำพยานหลักฐานดังกล่าวมาจัดทำคำฟ้องได้อย่างดีและรวดเร็ว ซึ่งเมื่อสำนักคดีโดยผู้ว่าคดีได้ดำเนินการยื่นฟ้องคดีต่อศาลที่มีเขตอำนาจแล้ว ศาลเห็นว่าคำฟ้องและพยานหลักฐานดังกล่าวมีน้ำหนักเพียงพอต่อการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีในชั้นศาล ศาลก็จะสั่งประทับรับฟ้องคดีดังกล่าวและเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลต่อไป ซึ่งการฟ้องคดีที่มีเอกสารหลักฐานครบถ้วนดังกล่าวอาจส่งผลให้ศาลมีคำพิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิดได้อย่างครบถ้วนตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด ทั้งที่อัยการสูงสุดตั้งข้อไม่สมบูรณ์
