สื่อสารองค์กร ป.ป.ช. นำสื่อมวลชนส่วนกลางและภูมิภาค ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี ครั้งที่ 2 ติดตาม เฝ้าระวังและป้องปรามการทุจริตโครงการใหญ่ในพื้นที่
สำนักสื่อสารองค์กร สำนักงาน ป.ป.ช. จัดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 25 - 27 มิถุนายน 2568 วัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่ ได้รับทราบถึงผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตของสำนักงาน ป.ป.ช. ในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นผลดีทั้งในด้านการเสริมสร้างความเข้าใจในกระบวนการทำงานที่ถูกต้องแล้วนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สู่สาธารณชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการต่อต้านการทุจริต และการลงไปศึกษาดูงานในพื้นที่ สามารถนำความรู้ ข้อเท็จจริงที่ได้รับไปเผยแพร่สู่สาธารณชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาและผลกระทบของการทุจริตร่วมกัน ตลอดจนการได้รับมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของสำนักงาน ป.ป.ช. ณ โรงแรมราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
สรุปข้อมูลของผู้เข้าร่วมการประชุม
ผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. คณะผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง ผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด นายกเมืองพัทยา ผู้แทนจากหน่วยงานราชการภายในจังหวัดชลบุรี หัวส่วนราชการในพื้นที่ชลบุรี และสื่อมวลชน
ประเด็นหรือเรื่องในการประชุม
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวในพิธีเปิดโครงการฯ ว่า สำนักงาน ป.ป.ช. จัดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ในพื้นที่ของจังหวัดชลบุรี เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อปี 2566 การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของโครงการใหญ่ๆ ที่ยังดำเนินการไม่เรียบร้อย ให้มีการปรับปรุงกลไกเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน รวมทั้งการเพิ่มมาตรการและวิธีการเพื่อส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อยกระดับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศในภาพรวมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น การลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก (เมืองพัทยา) ซึ่งปัจจุบันเมืองพัทยาได้ลงนามในสัญญากับ บริษัท กรีนทั้มบ์ จำกัด ในวงเงินสัญญา 327,800,000 บาท กำหนดระยะเวลาก่อสร้างภายใน 820 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2568 งวดงานทั้งสิ้น 60 งวด (งานอาคารข้างอัฒจันทร์ฝั่งประธาน งานฝั่งอัฒจันทร์ 2,500 และ 5,000 ที่นั่ง งานภูมิทัศน์ งานครุภัณฑ์ งานเครื่องมือพิเศษและงานตรวจสอบโครงสร้างหลังคา) ดำเนินการก่อสร้างแล้ว 612 วัน คงเหลือระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง 208 วัน
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี จะร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน ชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดชลบุรี ในการเฝ้าระวังติดตาม สังเกตุการณ์การตรวจรับงาน ทั้ง 60 งวด จนเสร็จสิ้นโครงการ (ธันวาคม 2568) ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบในการร่วมเฝ้าระวังการทุจริต ตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุดโครงการเป็นการป้องปรามแบบบูรณาการเชิงรุก เพื่อป้องกันงบประมาณแผ่นดินที่ใช้ในการดำเนินโครงการดังกล่าว จำนวน 327,800,000 บาท ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ จะมีการลงพื้นที่ซอยเทพประสิทธิ์ 9 เชื่อมชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตาม “โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำซอยเทพประสิทธิ์ 9 เชื่อมชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา ซึ่งมีงบประมาณในการดำเนินโครงการ 190 ล้านบาท” และลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับกรณีศึกษาภารกิจงานป้องกันการทุจริต ประเด็น “การบูรณาการเพื่อวางมาตรการป้องกันการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติอนุญาตของนักลงทุน”
นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาก่อนการลงพื้นที่จริง ดังนี้ 1. การพิจารณาในเรื่องการอนุมัติ อนุญาต
การก่อสร้างอาคาร” 2. สถิติคดีและเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 2 และความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออกเมืองพัทยา และ 3. การเสวนาประเด็น “โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำซอยเทพประสิทธิ์ 9 เชื่อมชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา 190 ล้านบาท” อีกด้วย
ผลจากการมีส่วนร่วม
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่สำนักงาน ป.ป.ช. ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ได้มุ่งเน้นส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการทุจริตเพิ่มขึ้น ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 63 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 33 ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนมีความตื่นตัวต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น และมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ในฐานะที่เป็นองค์กรหลักในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเพิ่มขึ้น จึงกล้าที่จะออกมาแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสการทุจริตทันที เมื่อพบเห็นการทุจริตหรือพฤติกรรมที่เสี่ยงให้เกิดการทุจริต ในขณะเดียวกันหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาการทุจริตมากขึ้น มองเป้าหมายเดียวกันเป็นสิ่งสำคัญ จึงร่วมกันทำงานตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานได้ชัดเจนขึ้น จนนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการทุจริตที่เป็นจุดใหญ่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ปัจจุบันสังคมไทยมีความตื่นตัวในการต่อต้านการทุจริตมากขึ้น สำนักงาน ป.ป.ช. มีการบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งกับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม โดยเฉพาะงานสื่อสารกับสื่อมวลชน ซึ่งมีอิทธิพลในการขยายผลการรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่อต้านการทุจริตไปสู่สังคม ทั้งด้านความคิด ความเชื่อ ด้วยการให้บุคคลในกลุ่มนี้มีองค์ความรู้เรื่องการทุจริต และเสริมสร้างบทบาทการขับเคลื่อนงานสื่อสารสร้างกระแสสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต รู้จักแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม ไม่ให้ – ไม่รับสินบน และกล้าชี้ช่องเบาะแสเมื่อพบเห็นการทุจริต ซึ่งปัจจุบันกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก (Anti-SLAPP Law) ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 ประกาศใช้แล้ว จึงมั่นใจและให้ความไว้วางใจต่อระบบการรับเรื่องร้องเรียนการแจ้งเบาะแสของสำนักงาน ป.ป.ช. ว่ามีการปกป้องผู้ร้องเรียนอย่างแท้จริง และสามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้
สำนักงาน ป.ป.ช. เห็นว่าสื่อมวลชนเป็นพลังที่สำคัญในการแก้ปัญหาการทุจริตของประเทศในวันนี้ จึงได้นำทุกท่านลงพื้นที่เพื่อให้ได้เห็นถึงข้อเท็จจริงในแง่มุมต่าง ๆ ของการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้มีส่วนรับรู้ถึงกระบวนการ ขั้นตอนในการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ช. และนำข้อมูลไปเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับรู้ข่าวสารที่ถูกต้อง รอบด้าน ตลอดจนเป็นการกระตุ้นเตือนให้สังคมและทุกภาคส่วนตระหนักในผลเสียหายร้ายแรงที่เกิดขึ้นจากการทุจริตคอร์รัปชันต่อไป นายสาโรจน์ กล่าวปิดท้าย
สื่อสารองค์กร ป.ป.ช. นำสื่อมวลชนส่วนกลางและภูมิภาค ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี ครั้งที่ 2 ติดตาม เฝ้าระวังและป้องปรามการทุจริตโครงการใหญ่ในพื้นที่ สำนักสื่อสารองค์กร สำนักงาน ป.ป.ช. จัดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ระหว่างวัน...
สำนักสื่อสารองค์กร นำองค์ความรู้หรือผลการถอดบทเรียนความสำเร็จของการดำเนินโครงการ/กิจกรรมตามแผนส่งเสริมคุณธรรมฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
สื่อสารองค์กร ป.ป.ช. มอบเกียรติบัตรการยกย่องเชิดชูบุคลากรดีเด่นของสำนักสื่อสารองค์กร ตามที่ได้มีการคัดเลือกบุคลากรและหน่วยงานภายในดีเด่น ของสำนักสื่อสารองค์กร ผลปรากฏว่า ผลการคัดเลือกบุคคลคุณธรรม (ด้านการมีน้ำใจ) ประจำปี 2568 ได้มีมติเป็นเอก...
สื่อสารองค์กร ป.ป.ช. มอบเกียรติบัตรการยกย่องเชิดชูบุคลากรดีเด่นของสำนักสื่อสารองค์กร ตามที่ได้มีการคัดเลือกบุคลากรและหน่วยงานภายในดีเด่น ของสำนักสื่อสารองค์กร ผลปรากฏว่า ผลการคัดเลือกบุคคลคุณธรรม (ด้านการมีน้ำใจ) ประจำปี 2568 ได้มีมติเป็นเอก...
สื่อสารองค์กร ป.ป.ช. ร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้ในกิจกรรม "การยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐสู่การยกระดับธรรมาภิบาลภาครัฐไทย"เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 สำนักสื่อสารองค์กร เข้าร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้ในกิจกรรม "การยกระด...
สื่อสารองค์กร ป.ป.ช. ขอเชิญชวนร่วมสนับสนุนปัจจัย สิ่งของ อุปโภค-บริโภค 📍 สำนักสื่อสารองค์กร ขอเชิญชวนร่วมสนับสนุนปัจจัย สิ่งของ อุปโภค-บริโภค ให้กับ--"สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ"--👉 โดยท่านสามารถร่วมสนับสนุนได้ที่สำนักสื่อสารองค์กร ณ อา...
สื่อสารองค์กร ป.ป.ช. ขอเชิญชวนร่วมสนับสนุนปัจจัย สิ่งของ อุปโภค-บริโภค 📍 สำนักสื่อสารองค์กร ขอเชิญชวนร่วมสนับสนุนปัจจัย สิ่งของ อุปโภค-บริโภค ให้กับ--"สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ"--👉 โดยท่านสามารถร่วมสนับสนุนได้ที่สำนักสื่อสารองค์กร ณ อา...
การประชุมมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนงานตามแผนบูรณาการเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานการ...
สื่อสารองค์กร ป.ป.ช. นำผู้บริหารร่วมงานวันสถาปนาการท่าเรือแห่งประเทศไทย ครบรอบ 74 ปี เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้ นายนิติพันธุ์ ประจวบเหมาะ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้แทนสำน...