ป.ป.ช. จัดประชุมขับเคลื่อนยกระดับค่าคะแนน CPI สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และภาพลักษณ์ของประเทศ
จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 221
ป.ป.ช. จัดประชุมขับเคลื่อนยกระดับค่าคะแนน CPI สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และภาพลักษณ์ของประเทศ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม จัดกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกภาคส่วนในการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทย” ภายใต้โครงการขับเคลื่อนและติดตามการยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ของประเทศไทย โดยมี นายศรชัย ชูวิเชียร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวเปิดโครงการ ณ โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่น อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกภาคส่วนในการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทย” จัดขึ้นเพื่อเป็นการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการส่งเสริมการยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ของประเทศไทยให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช.
ในช่วงเช้า เป็นการเสวนาในหัวข้อ “ปัญหาสินบนกับการยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ของประเทศไทย” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นายกิตติเดช ฉันทังกูล ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) นายพรหเมศร์ เบ็ญจรงค์กิจ ผู้อำนวยการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของ ภาคเอกชนไทย นายธนศักดิ์ มังกโรทัย ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. นายพิศนุ อินทร์ชัยผู้อำนวยการกองวินัยและเสริมสร้างจริยธรรม สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร และนายสุทธินันท์ สาริมาน อดีตผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
และในช่วงบ่าย เป็นการแบ่งกลุ่มอภิปรายในหัวข้อ“แนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาระบบการปฏิบัติงานเพื่อยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ของประเทศไทย” โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามสภาพปัญหาการทุจริตได้แก่ กลุ่มที่ 1 ประเด็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาสินบนเกี่ยวกับการควบคุม กำกับ ดูแลของหน่วยงานรัฐ(ประเด็นการแชร์ลูกโซ่ และสถานบันเทิง) กลุ่มที่ 2 ประเด็นการป้องกันการติดสินบนในการอนุมัติ อนุญาต (ประเด็นการนำเข้าส่งออก และก่อสร้างอาคาร) กลุ่มที่ 3 ประเด็นการตรวจสอบการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ และการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
สำนักงาน ป.ป.ช. ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น 21 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ(พ.ศ. 2561 – 2580) ให้บรรลุเป้าหมาย จึงได้จัดโครงการขับเคลื่อนและติดตามการยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ของประเทศไทย กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกภาคส่วนในการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการส่งเสริมการยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทย ให้เป็นไปตามเป้าหมาย
นายศรชัย ชูวิเชียร กล่าวว่า “คะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) นั้น มีความสำคัญอย่างมาก และส่งผลไปยังทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพราะหากคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศสูงขึ้น ย่อมสะท้อนภาพลักษณ์การทุจริตของประเทศที่ดี เมื่อพิจารณายุทธศาสตร์ชาติ แผนที่เกี่ยวข้อง และความสำคัญของคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) จะเห็นได้ว่าทิศทางการพัฒนาประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้ให้ความสำคัญต่อการยกระดับค่าคะแนน CPI ของประเทศไทยให้อยู่ในอันดับที่สูงขึ้น อย่างไร ก็ตาม การขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าวให้บรรลุเป้าหมาย ที่มุ่งหวังให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ความโปร่งใส และมีระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต เทียบเคียงกับนานาประเทศในระดับสากลต่อไปนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่จะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนไปในแนวทางเดียวกัน เมื่อทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของปัญหาการทุจริต และเข้ามา มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต(Corruption Perceptions Index : CPI) ของประเทศไทย เพราะถ้าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทยสูงขึ้น ย่อมสะท้อนถึงภาพลักษณ์ด้านการทุจริตของประเทศที่ดีขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนในการพิจารณามาประกอบธุรกิจในประเทศ อันส่งผลต่อความเจริญของประเทศในอนาคต
โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์และสอดคล้องต่อการผลักดันเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 21 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาในระยะ 20 ปี โดยใช้ดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) เป็นเป้าหมายในการดำเนินการของแผนแม่บทฯ ซึ่งกำหนดให้ประเทศไทยมีอันดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ในปี พ.ศ. 2580 อยู่ในอันดับ 1 ใน 20 ของโลก และ/หรือได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 73 คะแนน”
ทั้งนี้คะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ในปี พ.ศ. 2567 (ปี 2024) ซึ่งองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International : TI) ได้ประกาศคะแนน เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 จากจำนวน 180 ประเทศ ทั่วโลก ในขณะที่ประเทศไทย ได้ 34 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 107 ของโลก และอยู่ในอันดับที่ 5 ของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ในปี พ.ศ. 2567 กับเป้าหมายที่กำหนดตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 21 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ (พ.ศ. 2561 – 2580) แล้ว เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จะต้องมาร่วมมือกันแก้ไขปัญหาการทุจริต รวมถึงการขับเคลื่อนและผลักดันการยกระดับคะแนน CPI ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด เทียบเคียงกับนานาประเทศในระดับสากล
การจัดกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกภาคส่วนในการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทย ในครั้งนี้สำนักงาน ป.ป.ช. คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นโอกาสอันดี ที่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทุกท่านจะได้แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ปัญหาอุปสรรค และให้ข้อเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน อันเป็นประโยชน์ต่อการร่วมกันขับเคลื่อน ผลักดันเพื่อนำไปสู่การยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ของประเทศไทยให้สูงขึ้นได้ในอนาคต
Related
