จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 58
ป.ป.ช. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายฯ ต้านและลดทุจริต ประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตด้านการสาธารณสุข
ระหว่างวันที่ 6 - 7 มีนาคม 2568 สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต จัดกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อต้านและลดทุจริตในพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต ประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตด้านการสาธารณสุข ครั้งที่ 3 (จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดฉะเชิงเทรา) ภายใต้โครงการต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG: Together against Corruption-TaC) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีนางวริดา ตันบุญเอก ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต กล่าววัตถุประสงค์การดำเนินโครงการฯ ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ บางนา เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
วัตถุประสงค์เพื่อสร้างให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันแก้ไขปัญหาและการกำหนดแนวทางเฝ้าระวังการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเพื่อนำปัญหาการทุจริตหรือประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตตามฐานข้อมูลของสำนักงาน ป.ป.ช. มาพัฒนาสู่การป้องกันการทุจริตตามกระบวนการของสำนักงาน ป.ป.ช. อาทิ หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา มาตรการป้องกันการทุจริต การเฝ้าระวังและประเมินสภาวการณ์ทุจริต การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจน ผลงานทางวิชาการเพื่อพัฒนากระบวนการต้านและลดการทุจริตอย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับภัยของการทุจริต และส่งเสริมให้ประชาชนประสงค์จะเข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์ต่อต้านการทุจริต
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนและหน่วนงานของรัฐมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (กรรมการ สปท.) อดีตประธานกรรมการ ป.ป.ท. และอดีตกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายโสฬส อ้นไชยะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ นางพิชิดา ตัญญูบุตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. จากส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดฉะเชิงเทรา และเครือข่ายภาคประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ รวมจำนวน 120 คน
โดยกิจกรรมฯ ในวันแรก (6 มีนาคม 2568) ช่วงเช้า เป็นการบรรยายพิเศษ หัวข้อ “การส่งเสริมและสนับสนุนให้เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (สปท.) ตามมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2568” โดยนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ สปท. และช่วงบ่าย-เย็น เป็นการประชุม
เชิงปฏิบัติการ หัวข้อ “การพัฒนาศักยภาพผู้นำเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อเสริมสร้างการรู้คิดในการต้านและลดการทุจริต”และ “การวางแผนการปฏิบัติงาน เพื่อการเชื่อมโยงเครือข่ายในการต้านและลดความเสี่ยงต่อการทุจริตด้านการสาธารณสุข” โดย ดร.นิพัทธ์ กานตอัมพร และคณะวิทยากรจากสถาบันเมธาฟอรัม (Meta Forum Training) และ การบรรยาย หัวข้อ “บทบาทของเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขในมิติของภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐ กับการเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อต้านและลดทุจริต” โดยนายอภินันท์ ศิวิโรจน์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วม 3 สำนักงาน ป.ป.ช.
สำหรับกิจกรรมฯ ในวันที่สอง (7 มีนาคม 2568) ช่วงเช้า เป็นการอภิปราย หัวข้อ “แนวทางการยกระดับการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแส และตรวจสอบการทุจริต เพื่อต้านและลดทุจริตประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตด้านการสาธารณสุข” โดยได้รับเกียรติจาก นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นางวิศัลย์สิริ ตันตระกูล ประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 ว่าที่ร้อยโทเจนรบ พละเดช ผู้อำนวยการกลุ่มงานเครือข่ายภาคประชาสังคมป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมอภิปรายเสวนา และนางวริดา ตันบุญเอก ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต เป็นผู้ร่วมอภิปรายเสวนาและดำเนินรายการ และช่วงบ่ายเป็นการแบ่งกลุ่ม หัวข้อ “การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น บทบาทของเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อจัดทำแนวทางการเสนอแผนต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ ในประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตด้านการสาธารณสุข” โดยคณะวิทยากรจากสำนักพัฒนาและส่งเสริมธรรมาภิบาล สำนักงาน ป.ป.ช.
ทั้งนี้ ตลอดการดำเนินกิจกรรมฯ ดังกล่าว เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเครือข่ายภาคประชาชน จะได้รับความรู้และประโยชน์จากการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน การบูรณาการเพื่อเชื่อมโยงการทำงานระหว่างเครือข่ายต่าง ๆ ในพื้นที่ รวมถึงการจัดทำแนวทางการเสนอแผนต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ ในประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตด้านการสาธารณสุข เพื่อนำไปต่อยอดสู่การปฏิบัติได้ภายในหน่วยงาน/องค์กร/ชุมชน ได้ในอนาคต อันจะส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมฯ ในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประสบผลสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของโครงการทุกประการ