ป.ป.ช. ระดมครู กทม. ร่วมผลักดันหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา นำไปสู่การปฏิบัติได้จริง
จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 164
ป.ป.ช. ระดมครู กทม. ร่วมผลักดันหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา นำไปสู่การปฏิบัติได้จริง
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักต้านทุจริตศึกษา จัดกิจกรรมการผลักดันการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ผ่านทฤษฎีคุณธรรมเชิงสัมพัทธ์ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาและประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชน โดยมี นางวาธินี สุริยวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานเปิดกิจกรรม และนางสวรรยา รัตนราช ผู้อำนวยการสำนักต้านทุจริตศึกษา เป็นผู้กล่าววัตถุประสงค์ ณ ห้องประชุมนนทบุรี 1 อาคาร 4 สำนักงาน ป.ป.ช. อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
วัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดกระบวนการเรียนรู้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ผ่านทฤษฎีคุณธรรมเชิงสัมพัทธ์ อันจะก่อให้เกิดการขยายผลการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม เสริมสร้างการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาแบบมีส่วนร่วม และเกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ และเรียนรู้ร่วมกัน นำไปสู่การพัฒนากระบวนการคิดและวิธีการปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จำนวน 130 คน
นางวาธินี สุริยวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2568 สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตร พร้อมกับเดินหน้าสร้างความร่วมมือในการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษามาอย่างต่อเนื่อง และได้ขยายผลการนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้ให้ครอบคลุมทุกสถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายและหน่วยงานรับผิดชอบที่มีความชัดเจนมากขึ้น ตลอดจนได้พัฒนาเครื่องมือและแนวทางขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา เพื่อเสริมศักยภาพในการนำหลักสูตรต้านทุจริตไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกภาคส่วน ทั้งนี้ หลักสูตรต้านทุจริตศึกษาได้มีการปรับปรุง พัฒนาในส่วนของเนื้อหาให้มีความทันสมัย เท่าทันต่อปัญหาการทุจริตที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามพลวัตของสังคมอยู่ตลอดเวลา รวมถึงในส่วนของการพัฒนากลไกและนวัตกรรมการเรียนรู้ให้เอื้อต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนไป ซึ่งกิจกรรมฯ ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งของความร่วมมือในการพัฒนายกระดับประสิทธิภาพการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมและประเทศชาติที่ไม่ทนต่อการทุจริต ยกระดับคุณธรรมจริยธรรมของสังคม และขับเคลื่อนสังคมโปร่งใสให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
นางสวรรยา รัตนราช ผู้อำนวยการสำนักต้านทุจริตศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาสำนักงาน ป.ป.ช. ได้การผลักดันหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาอย่างต่อเนื่อง และมีการกำกับติดตามผลสัมฤทธิ์ในการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา เพื่อพัฒนาและขยายผลหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ได้มีการจัดอบรมเพิ่มประสิทธิภาพวิทยากรตัวคูณหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา จากสถานศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานคร สำเร็จไปแล้วจำนวน 2 รุ่น ซึ่งทำให้ส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาสู่สถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานครให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำนักงาน ป.ป.ช. จึงจัดกิจกรรมการผลักดันการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ผ่านทฤษฎีคุณธรรมเชิงสัมพัทธ์ สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการบรรยายในหัวข้อ “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการต่อต้านการทุจริต” วิทยากรโดย พลเอก ศรุต นาควัชระ ผู้อำนวยการศูนย์ยุวพัฒน์ มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จากนั้น เป็นการแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ หัวข้อ “ส่งเสริมกระบวนการคิดต้านทุจริต ผ่านทฤษฎีคุณธรรมเชิงสัมพัทธ์”
ทั้งนี้ กิจกรรมการผลักดันการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้ผ่านทฤษฎีคุณธรรมเชิงสัมพัทธ์ ครั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษา ของสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษา ศึกษานิเทศก์ และบุคลากรทางการศึกษาสังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จะนำองค์ความรู้ถ่ายทอดสู่เด็กและเยาวชนให้เกิดทักษะกระบวนการคิดอย่างมีขั้นตอนและเป็นระบบ สามารถแยกแยะประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมได้อย่างอัตโนมัติ และปฏิบัติตนเป็นผู้ที่ละอายและไม่ทนต่อการทุจริต เพื่อสร้างฐานคิดจิตพอเพียงต้านทุจริตให้เกิดขึ้นเป็นพื้นฐานความคิดของปัจเจกบุคคล และนำไปสู่การพัฒนาผู้เรียนให้เป็นพลเมืองดีของประเทศ สนใจปัญหาส่วนรวม รวมถึงมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการทุจริตของประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ต่อไป
Related
