สำนักงาน ป.ป.ช. จัดประชุมเชิงวิชาการด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 3 (The Third International Conference on Anti–Corruption Innovations in Southeast Asia)
จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 15
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับองค์การสหประชาชาว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ศูนย์ความรู้ความร่วมมือด้านการต่อต้านการทุจริตและธรรมาภิบาลในภูมิภาค (KRAC) สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) สถาบัน Chandler Institute of Governance (CIG) และ World Justice Project (WJP) จัดประชุมเชิงวิชาการด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 3 (The Third International Conference on Anti–Corruption Innovations in Southeast Asia) ณ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และนักวิชาการทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมการประชุม
การประชุมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการ ป.ป.ช. และ ดร. พิเศศ สาครเย็น ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม พร้อมรับฟังการบรรยายพิเศษจากนางเดลฟีน ชานซ์ ผู้แทน UNODC ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก และดร. ศรีรักษ์ พิลาพัฒน์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก WJP ที่ร่วมถ่ายทอดมุมมองการขับเคลื่อนความโปร่งใส ในระดับนานาชาติ
ในช่วงเช้า ประกอบด้วยการการเสวนา 2 หัวข้อ คือ Government Procurement Transparency ซึ่งมีผู้แทนจากฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย ร่วมนำเสนอประสบการณ์ตรงที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น การพัฒนาระบบจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ของฟิลิปปินส์ การใช้เทคโนโลยี AI เพื่อติดตามสัญญารัฐของอินโดนีเซีย รวมถึงระบบ e-GP ของไทย โดยมีองค์กรภาคประชาสังคมจากมาเลเซียสะท้อนบทบาทของภาคประชาชนในการตรวจสอบการใช้จ่ายของรัฐ รวมถึงยังมีการเสวนาในหัวข้อ Youth-led and Education-focused Initiatives เยาวชนจากเครือข่าย YouthLED ของ UNODC ร่วมนำเสนอการขับเคลื่อนของคนรุ่นใหม่ และมีนักเรียนนายร้อยตำรวจไทยแบ่งปันประสบการณ์ด้านการปลูกฝังคุณธรรมในสถาบันการศึกษา ร่วมด้วยผู้แทนจากคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งฮ่องกง (ICAC) และอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ชี้ให้เห็นแนวทางสร้างพื้นที่และเครื่องมือที่ทำให้เยาวชนมีบทบาทสำคัญในสังคมโปร่งใส
สำหรับช่วงบ่าย ประกอบด้วยการเสวนา 4 หัวข้อ คือ Integrity, Anti-Corruption and Ethics in Government, Politics and the Judiciary มีผู้แทนจากสำนักงาน ป.ป.ช. ประเทศไทย แลกเปลี่ยนแนวทางการประเมินพฤติกรรมจริยธรรมของนักการเมือง ร่วมกับผู้แทนจาก World Justice Project ที่หยิบยกดัชนีหลักนิติธรรม (Rule of Law Index) มาเป็นกรอบการวัดความโปร่งใส ขณะที่ผู้แทนจากสิงคโปร์และเวียดนามจาก Chandler Institute of Governance ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างระบบประเมินที่ทำให้รัฐบาลมีศักยภาพในการป้องกันการทุจริตมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีการเสวนาในหัวข้อ Beneficial Ownership Transparency and Emerging Technologies ผู้แทนจากสิงคโปร์ (ACRA) นำเสนอความคืบหน้าการพัฒนาระบบเปิดเผยผู้ถือหุ้นที่แท้จริง พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญจาก UNODC และองค์กร Open Ownership ที่อธิบายถึงทั้งโอกาสและความเสี่ยงจากเทคโนโลยีใหม่ เช่น การใช้บล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซีที่อาจถูกนำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
นอกจากนี้ ยังมีการเสวนา Open Data on Politically Exposed Persons (PEPs) ที่ผู้แทนจากมาเลเซีย ไทย และอินโดนีเซีย นำกรณีศึกษามาแลกเปลี่ยน โดยมีสื่อมวลชนจากนิตยสาร Tempo ของอินโดนีเซียร่วมแบ่งปันการใช้ข้อมูล PEPs ในการสืบสวนคดีทุจริต ซึ่งสะท้อนบทบาทสำคัญของข้อมูลเปิดต่อการทำงานของสื่อเพื่อสังคม และการเสวนาในหัวข้อ Judicial Integrity ที่ผู้แทนจากศาลฎีกาไทย ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก UNODC OHCHR และ World Justice Project ยกตัวอย่างการใช้เทคโนโลยี AI ในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการจัดการกับประเด็นการทุจริตเชิงเพศและอคติในกระบวนการพิจารณาคดี ซึ่งเป็นความท้าทายร่วมกันของหลายประเทศในภูมิภาค
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. จะนำนวัตกรรมและองค์ความรู้จากการประชุมไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนากลไกต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย รวมถึงใช้เป็นข้อมูลเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ เพื่อยกระดับมาตรการความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในภาครัฐ
Related
