จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 47
ป.ป.ช. จับมือมหาวิทยาลัย เดินหน้าสร้างหลักคิดต้านทุจริตกับผู้เรียนอุดมศึกษา
สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักต้านทุจริตศึกษา ได้ประสานความร่วมมือในการขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหาการทุจริตแบบบูรณาการกับสถาบันอุดมศึกษา โดยเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2568 นางสาวลลิตา โภชนพันธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นำคณะเจ้าหน้าที่ เข้าหารือกับรองศาสตราจารย์ ดร.ไพลิน ภู่จีนาพันธุ์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยณรงค์ เหลืองวิลัย คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2568 คณะผู้บริหาร ประกอบด้วย นายศรชัย ชูวิเชียร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นางสาวลลิตา โภชนพันธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนางสาวอภิสร์ญา พัดเกร็ด ผู้อำนวยการสำนักต้านทุจริตศึกษา เข้าพบหารือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง รองศาสตราจารย์ณัฐพงศ์ บุญเหลือ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร และรองศาสตราจารย์ ดร. จักรี ไชยพินิจ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา เพื่อประสานงานความร่วมมือการขับเคลื่อนดำเนินงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาการทุจริตแบบบูรณาการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นรูปธรรม สามารถตอบสนองแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น (21) การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ
การประสานงานความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีประเด็นการหารือและซักซ้อมความร่วมมือการขับเคลื่อนร่วมกันที่สำคัญ ได้แก่ (1) การพิจารณานำกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตบรรจุเข้าในหลักสูตรการศึกษา (2) การกำหนดให้ “การผ่านการเรียนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาด้วยระบบ e – Learning” เป็นเงื่อนไขในการเข้ารับการศึกษา
สรุปผลการหารือร่วมกัน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยรามคำแหงยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช. ในการนำกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาบรรจุเป็นหลักสูตรการศึกษาในระดับปริญญาตรี โดยจะศึกษารายละเอียดขอบเขตเนื้อหาวิชาร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. อีกครั้ง ในส่วนของประเด็นการกำหนดให้ “การผ่านการเรียนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาด้วยระบบ e – Learning” เป็นเงื่อนไขในการเข้ารับการศึกษา ทางมหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งจะพิจารณาแนวทางในการนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปปรับใช้อีกครั้ง การประสานพลังในครั้งนี้นับเป็นการสร้างความร่วมมืออย่างมีเอกภาพและเป็นรูปธรรมอันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ของการปลูกฝังและหล่อหลอมให้มีจิตสำนึกและพฤติกรรมยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต การสร้างวัฒนธรรมจิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดีควบคู่กับส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป