จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 1351
ป.ป.ช. ชี้แจงกรณีปรากฏข่าวข้อเสนอแนะของ สตง. ที่มีต่อหลักเกณฑ์การประเมิน ITA
วันนี้ (23 มกราคม 2568) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่ปรากฏการนำเสนอข่าวจากสำนักข่าวอิศรา เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 ประเด็น “สตง.ชี้ประเมิน ITA เครื่องมือไม่ชัดเจน - โชว์ No Gift Policy แต่ผู้บริหารถูกจับเรียก ปย.” โดยได้มีการนำเสนอข้อมูลส่วนหนึ่งจาก รายงานผลการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ภายใต้แผนแม่บทการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ นั้น สำนักงาน ป.ป.ช. ขอชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมตามประเด็นที่สำนักข่าวอิศราได้นำเสนอ ดังนี้
ประเด็นที่ 1 การเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐเป็นเพียงการเปิดเผยข้อมูลเพื่อนำไปสู่ความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน แต่อาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันการทุจริตหรือไม่สามารถสะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานมีความโปร่งใสและไม่ทุจริต
การประเมิน ITA เป็นเครื่องมือที่มีหลักการเช่นเดียวกับเครื่องมือการประเมินผลหรือเครื่องมือการรับรองมาตรฐานสากลที่นานาประเทศนำไปใช้เป็นเครื่องมือที่ไม่มุ่งเน้นการจับผิดการทุจริตหรือมุ่งรับรองว่าเมื่อหน่วยงานผ่านการประเมิน ITA แล้ว จะไม่มีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นโดยสิ้นเชิง แต่เป็นการมุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการป้องกันการทุจริต ที่จะช่วยป้องปรามการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถรับรู้ถึงสัญญาณการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้น และมีกระบวนการบริการจัดการที่ดี เพื่อนำไปสู่การป้องกันและปราบปรามการทุจริตได้
ประเด็นที่ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ITA บางส่วนยังไม่ชัดเจน อาทิ ข้อคำถามบางข้อผู้ตอบแบบวัดอาจตีความคำถามแตกต่างกันและมีเกณฑ์การให้คะแนน ที่แตกต่างกัน และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ตอบแบบวัดให้คะแนนประเมินเป็นไปตามข้อเท็จจริง
การออกแบบเครื่องมือและข้อคำถามการประเมิน ITA เป็นการออกแบบตามหลักวิชาการตามหลักการวิจัยและประเมินผล ร่วมกันระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. กับสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ มีการเสนอต่อคณะกรรมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐแต่ละประเภท นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยประเมินผล ร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อการกำหนดข้อคำถาม ตัวเลือกการตอบ และเกณฑ์การให้คะแนนเป็นประจำทุกปี
เครื่องมือหรือแบบวัดที่ใช้ในการประเมิน ITA แบ่งออกเป็น 3 เครื่องมือ คือ แบบวัด IIT แบบวัด EIT และแบบวัด OIT ในส่วนของเครื่องมือที่ผู้ตอบแบบวัดที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้มาติดต่อหรือรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐ สามารถตอบได้ด้วยตนเองคือ แบบวัด IIT และแบบวัด EIT ซึ่งเป็นการประเมินการรับรู้และประสบการณ์ของผู้ตอบโดยวิธีการสำรวจ (survey) โดยได้มีการพิจารณาการกำหนดคำที่ใช้ในข้อคำถามให้มีความรัดกุม เป็นกลาง และสามารถใช้ตอบได้กับหน่วยงานภาครัฐทุกประเภท ผ่านกระบวนการทดสอบความเที่ยงตรง (validity) และความเชื่อมั่น (reliability) ซึ่งผู้ตอบสามารถเลือกตอบตามประสบการณ์และการรับรู้ได้โดยอิสระตามหลักการวิจัยประเมินผล เพื่อให้มั่นใจว่าผลการประเมิน ITA จะสามารถสะท้อนการรับรู้และประสบการณ์ตรงของผู้ตอบแบบประเมินได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ แม้ว่าผู้ตอบแบบประเมิน จะมีพื้นฐานองค์ความรู้และประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
ประเด็นที่ 3 ข้อคำถามบางข้อไม่ได้ออกแบบให้สอดคล้องกับภารกิจหลักของหน่วยงานภาครัฐ แบบวัด OIT เป็นการกำหนดข้อมูลสำคัญที่หน่วยงานต้องเปิดเผย แต่ยังไม่ได้พิจารณาคุณภาพของข้อมูลที่เปิดเผย อีกทั้งเป็นการเปิดเผยข้อมูลเพื่อนำไปสู่ความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน เท่านั้น
ประเด็นข้อคำถามที่ใช้ในการประเมิน ITA ได้ผ่านความเห็นชอบจากผู้แทนของหน่วยงานภาครัฐแต่ละประเภทที่เป็นองค์ประกอบของคณะกรรมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ว่าสามารถนำไปใช้ในการประเมินหน่วยงานภาครัฐได้ โดยประเด็นข้อคำถามในแบบวัด OIT มีความสอดคล้องกับกฎหมาย แผนแม่บทฯ และนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นประเด็นที่หน่วยงานภาครัฐทุกแห่งต้องดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้ว อาทิ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับแผนงานระดับชาติหลายฉบับ เช่น แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมถึงแผนงานบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นต้น
ประเด็นที่ 4 การเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐเป็นเพียงการเปิดเผยข้อมูลเพื่อนำไปสู่ความโปร่งใสในการปฏิบัติงานแต่อาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันการทุจริต หรือไม่สามารถสะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานมีความโปร่งใสและไม่ทุจริต ยกตัวอย่างเช่น ข้อ 031 การประกาศเจตนารมณ์นโยบาย No Gift Policy จากการปฏิบัติหน้าที่ โดย สตง. มีความเห็นว่า การที่หน่วยงานมีการเปิดเผยข้อมูลและได้คะแนนในการประเมินแต่ละข้อ ไม่อาจรับรองได้ว่าหน่วยงานดังกล่าวไม่มีการรับของขวัญจากบุคคลอื่นหรือไม่สามารถสะท้อนได้ว่าหน่วยงานดังกล่าวจะมีความโปร่งใสและไม่ทุจริต
การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ เป็นมาตรการป้องกันการทุจริตมาตรการหนึ่งที่สอดคล้องตามหลักการสากลที่ช่วยลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และลดโอกาสเกิดการทุจริต อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการป้องกันการทุจริตที่ต้องดำเนินการควบคู่กับมาตรการอื่น ๆ เช่น การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเข้าใช้ประโยชน์จากข้อมูลภาครัฐในการตรวจสอบธรรมาภิบาลหรือการทุจริตในการดำเนินงาน
การกำหนดประเด็นข้อคำถามเกี่ยวกับการประกาศเจตนารมณ์นโยบาย No Gift Policy จากการปฏิบัติหน้าที่ สืบเนื่องมาจากแผนปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้กำหนดให้มีกิจกรรมที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยยะสำคัญ (Big Rock) เพื่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศมีผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยหนึ่งในกิจกรรมสำคัญคือ ให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยประกาศตนเป็นหน่วยงานที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (No Gift Policy) และศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ได้เห็นชอบให้มีการขับเคลื่อนนโยบาย No Gift Policy ในหน่วยงานภาครัฐ และมอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ท. เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการขับเคลื่อน โดยสำนักงาน ป.ป.ท. ได้เสนอเรื่องการขับเคลื่อนนโยบาย No Gift Policy เป็นประเด็นข้อคำถามในการประเมิน ITA โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรคุณธรรมและโปร่งใส (Organization of Integrity) สร้างค่านิยมและจิตสำนึกที่ดีให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเป็นการดำเนินการควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนในประเด็นการต่อต้านการรับสินบน และการรับทรัพย์สินของเจ้าพนักงานของรัฐ ตามมาตรา 128 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 ซึ่งเป็นมาตรการทางกฎหมาย โดยมุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมีความรู้และมีแนวปฏิบัติตามกฎหมายที่ถูกต้อง และมีการเปิดเผยการดำเนินงานดังกล่าวต่อสาธารณะ เพื่อให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ
นอกจากนี้ การขับเคลื่อนนโยบาย No Gift Policy เป็นการดำเนินการตามแนวทางมาตรฐานสากลที่ทำในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร แคนาดา และประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ โดยนโยบาย No Gift Policy ที่แต่ละประเทศได้ขับเคลื่อนเป็นมาตรการทางสังคมที่ใช้ในการควบคุมพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเมื่อได้มีการขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าวออกไปแล้ว ก็จะเป็นการกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนได้ทราบว่าในการไปติดต่อราชการนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการนำของขวัญของกำนัลให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ และเพิ่มแรงกดดันทางสังคมในการจับตามองพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่หากเจ้าหน้าที่ของรัฐรายใดฝ่าฝืนหรือไม่กระทำการตามนโยบาย No Gift Policy ที่ได้ประกาศไว้ สังคมก็จะเกิดการตั้งคำถามและเกิดแรงกดดัน (social sanction) ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐนั้น ๆ เพื่อให้ทำตามนโยบาย No Gift Policy ที่ประกาศไว้ต่อไป
ประเด็นที่ 5 การประเมิน ITA ควรกำหนดข้อคำถามที่ใช้ในการประเมินให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งกำหนดคำถามให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับหน้าที่และภารกิจหลักของแต่ละหน่วยงาน รวมถึงแยกประเภทของผู้ตอบแบบวัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตอบแบบวัดโดยที่ผู้ตอบไม่รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อคำถาม
ตามที่ สตง. ได้ให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานของโครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ 2566 สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับข้อเสนอและได้รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามข้อเสนอให้ สตง. ทราบเป็นระยะ และได้นำมาปรับปรุงพัฒนาหลักเกณฑ์การประเมิน ITA ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยปรับข้อคำถามที่ใช้ในการประเมินให้มีความกระชับและชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับการปรับปรุงพัฒนาในระยะยาว สำนักงาน ป.ป.ช. ได้กำหนดแผนการปรับปรุงพัฒนาเครื่องมือการประเมิน ITA สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2571 (ตามกรอบระยะที่ 2 ของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ) ให้มีความสอดคล้องกับบริบทและภารกิจของหน่วยงานภาครัฐแต่ละประเภทมากยิ่งขึ้น กำหนดปรับปรุงพัฒนาแล้วเสร็จในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ขณะเดียวกันเครื่องมือการประเมิน ITA จะยังคงชุดข้อคำถามอีกส่วนหนึ่งที่สามารถวัดผลการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐหรือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในระดับชาติเช่นเดิม
ประเด็นที่ 6 การประเมิน ITA ควรกำหนดแนวทางและรูปแบบมาตรฐานในการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะทางเว็บไซต์หลักของหน่วยงาน พร้อมทั้งตัวอย่างข้อมูลที่ถูกต้องโดยนำเสนอผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อให้หน่วยงานสามารถเข้าถึงและศึกษาข้อมูลได้ง่าย
สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการจัดทำตัวอย่างให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีภารกิจการดำเนินงานคล้ายคลึงกันอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี สำหรับหน่วยงานภาครัฐส่วนกลาง สำนักงาน ป.ป.ช. ได้จัดทำตัวอย่างแนวทางการเปิดเผยข้อมูล เผยแพร่ให้หน่วยงานภาครัฐแต่ละประเภทพิจารณานำไปปรับใช้ เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐส่วนกลางแต่ละประเภท มีความแตกต่างทั้งในแง่ประเภทหน่วยงาน ภารกิจ กลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ ระเบียบ กฎหมาย และแนวทางปฏิบัติของตน
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน