Contrast
Font
3cf8909f02e9ba93276bab45b70b8528.jpg

เกร็ดความรู้...สู้ทุจริต การเตรียมตัวเมื่อได้รับหนังสือให้ไปรายงานตัว

จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล
จำนวนผู้เข้าชม: 20

10/06/2568
 
เกร็ดความรู้...สู้ทุจริต‼
รู้ไว้… ไม่ตื่นตระหนก! หากวันหนึ่งคุณได้รับหนังสือให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ศาล หรือผู้ว่าคดีและคณะ อย่าเพิ่งตกใจ นี่คือขั้นตอนสำคัญในกระบวนการหลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่ามีมูลความผิดทางอาญาแล้ว
การเตรียมตัวเมื่อได้รับหนังสือให้ไปรายงานตัว
1.กรณีได้รับหนังสือให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการหรือศาล
เมื่อผู้ถูกกล่าวหาได้รับหนังสือให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการหรือศาลหมายความได้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนคดีที่มีโทษทางอาญาตามฐานความผิดที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหามีมูลความผิดทางอาญาเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ หนังสือเชิญให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการหรือศาลดังกล่าวจะปรากฏรายละเอียดต่าง ๆ ได้แก่ วัน เวลา และสถานที่ และรายละเอียดของเอกสารหรือข้อมูลที่จะต้องจัดเตรียมเพื่อใช้ประกอบการรายงานตัวต่อพนักงานอัยการหรือศาล รวมถึงหลักประกันสำหรับกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาประสงค์จะขอปล่อยชั่วคราว และทนายความสำหรับการต่อสู้คดี ซึ่งโดยทั่วไปในทางปฏิบัติ วันและเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือเชิญดังกล่าว ถือเป็นวันเวลาที่อัยการสูงสุดจะนำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปส่งฟ้องคดีต่อศาลที่มีเขตอำนาจด้วย
2.กรณีมีหนังสือให้ไปรายงานตัวต่อผู้ว่าคดีและคณะ
กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับหนังสือให้ไปรายงานตัวต่อผู้ว่าคดีและคณะถือเป็นกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนหรือสอบสวนหรือตรวจสอบการกระทำที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจ และได้พิจารณาแล้วมีมติ ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ในคดีความผิดทางอาญาที่คณะกรรมการร่วมไม่อาจหาข้อยุติได้ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นสมควรให้ฟ้องคดีเอง
(2) ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน หรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน ซึ่งเป็นคดีที่มีโทษทางอาญา
กรณีดังกล่าวข้างต้น เป็นคดีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจในการยื่นคำร้องหรือคำขอต่อศาลที่มีเขตอำนาจเอง ซึ่งหากเมื่อผู้ถูกกล่าวหาได้รับหนังสือให้ไปรายงานตัวแล้ว ให้ผู้ถูกกล่าวหาตรวจสอบวัน เวลา และสถานที่ให้ละเอียดรอบคอบ
ทั้งนี้ หนังสือให้ไปรายงานตัวดังกล่าวจะระบุเอกสาร หลักประกัน หรือทนายความเพื่อประโยชน์ในการต่อสู้คดีเช่นเดียวกับคดีที่มีโทษทางอาญา
3.กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ต้องไปรายงานตัว
ลักษณะของคดีที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วมีมติดังต่อไปนี้ ผู้ถูกกล่าวหาจะไม่ได้รับหนังสือให้ไปรายงานตัว เนื่องจากลักษณะคดีเป็นคดีแพ่ง คดีปกครอง หรือคดีรัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาจะทราบว่าตนถูกดำเนินคดีก็เมื่อได้รับสำเนาคำฟ้อง หรือสำเนาคำร้องแล้ว ได้แด้แก่
(1) คดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งจะต้องฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งจะต้องฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
(2) คดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ฝ้าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งจะต้องฟ้องต่อศาลฎีกา
(3) คดีเจ้าหน้าที่ของรัฐจัดทำโครงการหรืออนุมัติหรือจัดสรรเงินงบประมาณโดยรู้ว่าฝ่าฝืนบทบัญญัติตามมาตรา 144 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย
ทั้งนี้ คดีประเภทดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ผู้ถูกกล่าวหาจะมิได้รับหนังสือให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี หรือศาล ผู้ถูกกล่าวหาจะทราบว่ามีการฟ้องคดีเมื่อได้รับสำเนา
คำฟ้อง คำร้อง จากศาลที่มีเขตอำนาจ โดยคดีตาม (1) อาจเป็นได้ทั้งกรณีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาหรือคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการฟ้องคดีเองก็ได้ ส่วนคดีตาม (2) และ (3) เป็นคดีที่กฎหมายกำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้ดำเนินการฟ้องหรือยื่นคำร้องเอง
ดังนั้น หากผู้ถูกกล่าวหายังไม่ได้รับสำเนาคำฟ้องหรือสำเนาคำร้อง และอยากทราบว่าเรื่องกล่าวหาของตนอยู่ในขั้นตอนใด ผู้ถูกกล่าวหาสามารถประสานไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดที่รับผิดชอบ หรือสำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริตที่รับผิดชอบ แล้วแต่กรณี

Related