จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 7869
การนับระยะเวลา แยกได้เป็น 3 กรณี ดังนี้
1. กรณีการเข้ารับตำแหน่ง ให้เริ่มนับถัดจากวันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ทั้งนี้ หากเป็นกรณีมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้มีผลย้อนหลัง หรือกรณีคำสั่งแต่งตั้งให้มีผลย้อนหลัง ให้ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
และหนี้สินภายในหกสิบวันนับแต่วันถัดจากวันที่มีพระบรมราชโองการหรือวันที่คำสั่งแต่งตั้งมีผล
ตัวอย่าง
(1) มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ต้องนำบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบมายื่นระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 จนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2563
(2) มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งผู้พิพากษาโดยประกาศ ณ วันที่ 7 มีนาคม 2563 โดยให้มีผล ตั้งแต่วันที่
1 ตุลาคม 2562 ต้องนำบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบมายื่นระหว่างวันที่ 8 มีนาคม 2563 จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2563
2. กรณีพ้นจากตำแหน่งหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้เริ่มนับถัดจากวันพ้นจากตำแหน่งหรือวันที่พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น กรณีพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เนื่องจากเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ต้องนำบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบมายื่นระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม 2563 จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563
3. กรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้นับแต่วันถัดจากวันที่ดำรงตำแหน่ง
ครบสามปี เช่น มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะครบกำหนดเวลาต้องยื่นบัญชีกรณีทุกสามปีตลอดเวลายังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 โดยต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม 2566 จนถึงวันที่
30 สิงหาคม 2566