จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 1358
การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมกรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้ยื่นบัญชีกรณีเข้ารับตำแหน่งไว้แล้วตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (กรณีมีหน้าที่ยื่นก่อน พรป. 61 มีผลใช้บังคับ)
(1) กรณีผู้พิพากษาที่ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 39 (1) (9) และ (12) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณี เข้ารับตำแหน่งหรือกรณีทุกสามปีที่อยู่ในตำแหน่งไว้แล้ว และยังดำรงตำแหน่งดังกล่าวเรื่อยมาโดยมิได้เปลี่ยนตำแหน่ง ให้นับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งทุกสามปีต่อไปนับแต่วันที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีเข้ารับตำแหน่งหรือกรณีทุกสามปีที่อยู่ในตำแหน่งที่ได้ยื่นไว้ล่าสุด ทั้งนี้ ผู้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 39 (12) ให้หมายความรวมถึงผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาด้วย
(2) กรณีผู้ยื่นตาม (1) ย้ายไปดำรงตำแหน่งตามมาตรา 39 (1) (9) หรือ (12) แล้วแต่กรณี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 หรือตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง กำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 40 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ก่อนวันที่ 2 ธันวาคม 2561 ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งใหม่ และจะนับระยะเวลายื่นกรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐนับแต่วันเข้ารับตำแหน่งใหม่
(3) กรณีผู้พิพากษาที่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง กำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 40 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อาทิ อธิบดีผู้พิพากษาศาลชั้นต้น อธิบดีผู้พิพากษาภาค ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะใน ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ รองประธานแผนกในศาลอุทธรณ์ ประธานแผนกในศาลอุทธรณ์ เป็นต้น และดำรงตำแหน่งดังกล่าวเรื่อยมา จนถึงวันที่ 22 กรกฎาคม ๒๕๖๑ โดยยังดำรงตำแหน่งดังกล่าวเรื่อยมาจนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2561 และปัจจุบัน ยังไม่พ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ นับแต่วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ซึ่งจะมีหน้าที่ยื่นบัญชีในวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เว้นแต่กรณีตาม (๔) (รายละเอียดเพิ่มเติมตามลิงค์)
(4) หากผู้ยื่นตาม (3) ย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่นใดตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง กำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 40 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ระหว่าง วันที่ 22 กรกฎาคม 2561 ถึง วันที่ 1 ธันวาคม 2561 ผู้นั้นต้องยื่นพ้นจากตำแหน่งและยื่นกรณีเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยจะมีหน้าที่ยื่นกรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐนับแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งครั้งล่าสุดหรือกรณีพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วแต่กรณีใดมาถึงก่อน (5) กรณีผู้ยื่นย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่นใดตามมาตรา 39 (1) (9) และ (12) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ผู้นั้นต้องยื่นกรณีเข้ารับตำแหน่งใหม่และจะมีหน้าที่ยื่นกรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐนับแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งครั้งล่าสุด