ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาเพื่อลดความเสี่ยงต่อการทุจริต ณ องค์การบริหารส่วนตำบลวังทรายพูน อำเภอวังทรายพูน และองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหญ้าไทร อำเภอสากเหล็ก
จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร
จำนวนผู้เข้าชม: 5
วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2568
นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร มอบหมายกลุ่มงานป้องกันการทุจริต และชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพิจิตร อำเภอวังทรายพูนและอำเภอสากเหล็ก จัดโครงการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต กิจกรรมปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กิจกรรมลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาเพื่อลดความเสี่ยงต่อการทุจริต ณ องค์การบริหารส่วนตำบลวังทรายพูน อำเภอวังทรายพูน และองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหญ้าไทร อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร กรณี การดำเนินงานเรื่องที่ดินสาธารณประโยชน์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่ได้มีการสำรวจข้อมูลเพื่อจะดำเนินการขึ้นทะเบียนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
โดยในช่วงเช้าได้ประชุมและลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ปลัดอำเภอวังทรายพูน องค์การบริหารส่วนตำบลวังทรายพูน สำนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร ผู้นำชุมชนในเขตพื้นที่ตำบลวังทรายพูน รวมกว่า 35 คน ณ องค์การบริหารส่วนวังทรายพูน เพื่อรับทราบวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมและติดตามการดำเนินการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลวังทรายพูน ได้แจ้งสำรวจข้อมูลที่ดินสาธารณประโยชน์ที่จะทำการขึ้นทะเบียน และออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงได้แก่ หนองหินทะ จากการลงพื้นที่พบว่า
- หนองหินทะ อยู่ในพื้นที่หมู่ 5 เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เป็นพื้นที่ราบและต้นไม้ปกคลุม เดิมเป็นลำรางที่เคยใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ แต่ปัจจุบันมีลักษณะตื้นเขิน
- พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ซึ่งสำนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตรยืนยันว่าที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันมาก่อนการประกาศเขตปฏิรูปที่ดิน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเพื่อแสดงขอบเขตได้ แม้จะอยู่ในเขต สปก. โดยจะต้องมีการประสานงานกับ สปก.
- องค์การบริหารส่วนตำบลวังทรายพูนแจ้งว่าจะเร่งดำเนินการและตั้งงบประมาณไว้สำหรับดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งนี้ได้มีการประชุมประชาคมกับชาวบ้านในหมู่บ้านไปแล้วเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568 และมีมติเอกฉันท์ให้มีการชี้แนวเขตและขอขึ้นทะเบียนเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) เป็นขั้นตอนแรกแล้ว
ทางคณะติดตามได้มีข้อแนะนำให้ทางหน่วยงานควรจัดทำแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนในการดำเนินการออก นสล. เพื่อให้ทุกฝ่ายรับทราบและเตรียมการ และเน้นย้ำการออก นสล. จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ รู้ขอบเขตที่ชัดเจนของพื้นที่สาธารณประโยชน์ และป้องกันการครอบครองหรือบุกรุกโดยบุคคลอื่น รวมถึงลดปัญหาข้อพิพาทและการร้องเรียน. และความเสี่ยงต่อการบุกรุก โดยเฉพาะพื้นที่ที่ตื้นเขินและไม่ได้ใช้งาน. และการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง อบต. อำเภอ และสำนักงานที่ดิน ในการดูแลและจัดการที่ดินสาธารณประโยชน์ การประชุมในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการเรื่องที่ดินสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ อบต. วังทรายพูน และเน้นย้ำความสำคัญของการป้องกันการทุจริตและการบุกรุกที่ดินของรัฐ.
ในช่วงบ่าย ได้ประชุมและลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ปลัดอำเภอสากเหล็ก องค์การบริหารส่วนตำบล หนองหญ้าไทร องค์การบริหารส่วนตำบลสากเหล็ก สำนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ รวมกว่า 35 คน ณ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหญ้าไทร เพื่อรับทราบวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรม และติดตามการดำเนินการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหญ้าไทรและองค์การบริหารส่วนตำบลสากเหล็ก ได้แจ้งสำรวจข้อมูลที่ดินสาธารณประโยชน์ หนองจิกพงษ์ เป็นพื้นที่สาธารณะดั้งเดิมในลักษณะหนองน้ำ โดยมีพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง ต.หนองหญ้าไทร และ ต.สากเหล็ก จากการลงพื้นที่พบข้อมูลว่า
- เดิมเป็นพื้นที่กว้างขวาง และประชาชนมีการใช้งานร่วมกันในการเลี้ยงสัตว์และหาปลา. ประชาชนในพื้นที่ให้ข้อมูลว่าเดิมมีเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ สภาพปัจจุบันพื้นที่หนองน้ำที่ยังเหลือเพียงประมาณ 3-4 ไร่ เนื่องจากมีการดันดินกลบไปเรื่อย ๆ
- พื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาข้อพิพาทเรื่องจากมีการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 (หนังสือรับรองการทำประโยชน์) ในพื้นที่นี้มาตั้งแต่ปี 2519 ซึ่งในขณะนั้นภาพถ่ายทางอากาศไม่ปรากฏว่าเป็นหนองน้ำ แต่ภาพถ่ายทางอากาศปี 2496 - 2497 แสดงว่าเป็นหนองน้ำ ดังนั้นในการรังวัดที่ดินสาธารณะเพื่อออกหนังสือสำคัญที่หลวง (น.ส.ล.)จะพบว่ามี เอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 จำนวน 2 แปลง ทับซ้อนกับพื้นที่หนองน้ำ. ซึ่งเจ้าของที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวได้คัดค้านการรังวัดและอ้างสิทธิ์ในที่ดินของตน คณะกรรมการจัดการที่ดินของรัฐ (กปร.) มีมติเมื่อปี 2562 ให้ดำเนินการเพิกถอนแก้ไขเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ในส่วนที่ทับซ้อน.ปัจจุบัน กรมที่ดินกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อ แต่งตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งมีนายอำเภอเป็นประธานและ อบต. ทั้งสองแห่งเป็นกรรมการ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของที่ดินก่อนจะพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ หากได้มีคำสั่งเพิกถอนที่เป็นทางการออกมา เจ้าของที่ดินจะสามารถใช้สิทธิ์ทางศาลปกครองได้ก็ต่อเมื่อมีคำสั่งเพิกถอนจากอธิบดีกรมที่ดินแล้ว และเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ที่ทับซ้อนนั้น ยังคงใช้ได้โดยชอบด้วยกฎหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเพิกถอนปัจจุบันเจ้าของที่ดินที่มี น.ส. 3 ที่ทับซ้อน ไม่สามารถนำไปจดทะเบียนขายหรือจำนองได้ เนื่องจากอยู่นระหว่างการพิจารณาแก้ไข
ทั้งนี้คณะติดตามเสนอแนะให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ย โดยมีนายอำเภอ, อบต. ที่ดิน, และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพูดคุยหาทางออกร่วมกันระหว่างราชการและเจ้าของที่ดินเพื่อให้สามารถออก น.ส.ล. เป็นไปได้โดยไม่ต้องรอคำสั่งเพิกถอนจากกรมที่ดิน และหลังจากออก น.ส.ล. แล้ว ควรมีการปักหลักหมุดแนวเขตให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคตและเป็นข้อมูลให้คนรุ่นหลัง การมี น.ส.ล. ที่ชัดเจนจะทำให้ อบต. สามารถ พัฒนาพื้นที่หนองจิกพงษ์ เช่น ขุดเป็นอ่างเก็บน้ำ หรือพัฒนาเป็นถนน เพื่อประโยชน์สาธารณะได้ด้วย
" ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ "
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร
23/6 ถนนฝั่งสถานีรถไฟ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
0 5661 3407 – 9
ระบบแจ้งเบาะแสการทุจริตออนไลน์ (e-service) https://wbs.nacc.go.th/
Related
