หากคุณลุกขึ้นมาพูดความจริง เปิดโปงการทุจริต แล้วถูกฟ้องกลับเพื่อกดดันให้หยุด…คุณมี “สิทธิ” ที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปากในคดีทุจริต เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ความคุ้มครองแล้ว สำนักงาน ป.ป.ช. จะเข้ามาดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ด้วยมาตรการที่จำเป็น ครอบคลุมทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีทางวินัย เพื่อให้คุณต่อสู้ได้อย่างมั่นใจ ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างไปติดตามกันได้เลย "สิทธิในการได้รับความคุ้มครองและช่วยเหลือมีอะไรบ้าง" เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ความคุ้มครองแล้ว สำนักงาน ป.ป.ช. จะเข้ามามีบทบาทในการ ให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว สำหรับมาตรการในการให้ความช่วยเหลือได้ตามความจำเป็น โดยแบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้ กรณีที่ 1 หากบุคคลถูกฟ้องคดีแพ่ง สามารถให้ความช่วยเหลือได้ดังต่อไปนี้ (1) การมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่แก้ต่างให้ (2) การจัดหาทนายความให้ หรือการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างทนายความ (3) การสนับสนุนค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี (4) การให้ความช่วยเหลือกรณีอื่น ๆ เท่าที่จำเป็น กรณีที่ 2 กรณีบุคคลถูกร้องทุกข์ ถูกกล่าวโทษ หรือถูกดำเนินคดีอาญา สามารถให้ความช่วยเหลือได้ดังต่อไปนี้ 2.1 หากอยู่ระหว่างการดำเนินการในชั้นพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ สำนักงาน ป.ป.ช. จะส่งข้อมูลและมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าบุคคลดังกล่าวได้รับความคุ้มครองตามมาตรา ๑๓๒ ไปให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการเพื่อประกอบการพิจารณา โดยให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสำนวนการสอบสวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา นอกจากนี้ ยังสามารถให้ความช่วยเหลือโดยสนับสนุนค่าฤชาธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี และการช่วยเหลือในการปล่อยชั่วคราว ได้ด้วย 2.2 หากอยู่ระหว่างถูกฟ้องคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์และคดีอยู่ในอำนาจของศาล สำนักงาน ป.ป.ช. สามารถให้ความช่วยเหลือ ดังนี้ (1) การมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่แก้ต่างให้ - โดยเจ้าหน้าที่ไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อแจ้งมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าบุคคลได้รับความคุ้มครองและขอให้ศาลรวมไว้ในสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณา ทั้งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องและในชั้นพิจารณาพิพากษา (2) การจัดหาทนายความให้ หรือการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างทนายความ (3) การขอให้พนักงานอัยการเข้าแก้ต่างให้ - หากเป็นเรื่องที่ควรส่งให้พนักงานอัยการแก้ต่าง สำนักงาน ป.ป.ช. จะประสานไปยังพนักงานอัยการเพื่อขอให้ดำเนินการแก้ต่างคดี และสนับสนุนดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาคดี (4) การสนับสนุนค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี (5) การช่วยเหลือในการปล่อยชั่วคราว 2.3 หากเป็นคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องและคดีอยู่ในอำนาจของศาล สำนักงาน ป.ป.ช. จะแจ้งมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าบุคคลดังกล่าวได้รับความคุ้มครองไปยังบุคคลผู้ถูกฟ้องคดีหรือทนายความที่บุคคลนั้นแต่งตั้ง เพื่อให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลต่อไป นอกจากนี้ ยังสามารถให้ความช่วยเหลือโดยสนับสนุนค่าฤชาธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี และการช่วยเหลือในการปล่อยชั่วคราว ได้ด้วย กรณีที่ 3 กรณีบุคคลถูกดำเนินการทางวินัย คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะดำเนินการแจ้งมติที่วินิจฉัยว่าบุคคลดังกล่าวได้รับความคุ้มครองไปยังผู้มีอำนาจดำเนินการทางวินัยทราบ และให้ยุติการดำเนินการทางวินัยในเรื่องนั้นทันที #กฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปากในคดีทุจริต