Contrast
008b769d6fc4b0ca0b1b6f8b9499362f.png

การดำเนินการตามนโยบาย No Gift Policy และกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 128 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

จากไชต์: สำนัก มาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม
จำนวนผู้เข้าชม: 42

10/06/2568

การประชุมสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ครั้งที่ 1/2568 วันที่ 10  ตุลาคม 2567

ณ ห้องประชุมสถาบันการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สัญญา ธรรมศักดิ์ อาคาร  6 ชั้น  2  สำนักงาน ป.ป.ช.

 

เริ่มประชุมเวลา          13.30 น.

 

               เมื่อครบองค์ประชุม นางสาวลัดดา เดือนสว่าง  ผู้อำนวยการสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ประธานในที่ประชุม กล่าวเปิดการประชุมและดำเนินการประชุมตามวาระ ดังต่อไปนี้

วาระที่ 1        เรื่องที่แจ้งให้ที่ประชุมทราบ

 

               ผู้อำนวยการสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม แจ้งผลงานที่ผ่านมาของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567  ตามรายงานการประเมินผลตามคำรับรองการปฏิบัติราชการระดับร้อยละ 100  ผลการประเมิน ITA  ปี พ.ศ. 2567  ผลการประเมินอยู่ในลำดับที่ 1 ของหน่วยงานประเภท ภารกิจป้องกันการทุจริต  และมอบนโยบายการทำงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 พร้อมกันนี้ ได้แจ้งแผนปฏิบัติการและแผนการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

 

วาระที่ 2        เรื่องพิจารณารับรองรายงานประชุม

                    -ไม่มี

 

วาระที่ 3        เรื่องเสนอเพื่อทราบ

 

                   3.1 การขับเคลื่อนมาตรการและข้อเสนอแนะตามมติคณะรัฐมนตรี

 

               เพื่อเน้นการเผยแพร่มาตรการและข้อเสนอแนะตามมติคณะรัฐมนตรี รวมทั้งโครงการและกิจกรรมของสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ให้เจ้าหน้าที่เจ้าของเรื่องจัดทำ เผยแพร่ ข่าวประชาสัมพันธ์ และตอบข้อซักถามหรืออธิบายข้อสงสัยผ่านทางระบบ Q&A หรือ Facebook โดยมอบหมาย Admin ประจำกลุ่มดำเนินการ นำเสนอผู้อำนวยการสำนักฯ ก่อนดำเนินการเผยแพร่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นช่องทางในการส่งเสริมการขับเคลื่อนมาตรการ/ข้อเสนอแนะอีกทางหนึ่ง

                   3.2 การประเมิน ITA ส่วนราชการภายใน  สำนักงาน ป.ป.ช.

                   สำนักงาน ป.ป.ช. จัดให้มีการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ภายในสำนักงาน แบ่งการประเมินเป็น 3 ส่วน คือ

 

                    ส่วนที่ 1 : แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน (Internal Integrity and Transparency Assessment) หรือแบบวัด IIT โดยเปิดโอกาสให้บุคลากรภาครัฐทุกระดับ ที่ปฏิบัติงานมาไม่น้อยกว่า 1 ปี ได้มีโอกาสสะท้อนและแสดงความคิดเห็นต่อคุณธรรม และความโปร่งใสของหน่วยงานตนเอง เป็นแบบวัดที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บข้อมูลจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน มี 5 ตัวชี้วัด ประกอบด้วย
               1. ตัวชี้วัดการปฏิบัติหน้าที่ 2. ตัวชี้วัดการใช้งบประมาณ  3. ตัวชี้วัดการใช้อำนาจ  4. ตัวชี้วัดการใช้ทรัพย์สินของราชการ  5. ตัวชี้วัดการแก้ไขปัญหาการทุจริต ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรมที่ปฏิบัติงานในสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป จะต้องดำเนินการประเมินทุกคน และให้ประเมินตามความเป็นจริง

                    ส่วนที่ 2 : แบบวัดการรับรู้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก (External Integrityand Transparency Assessment) หรือแบบวัด EIT โดยเปิดโอกาสให้ผู้รับบริการหรือ ผู้ติดต่อหน่วยงาน ภาครัฐ ได้มีโอกาสสะท้อนและ แสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้รับบริการหรือผู้ติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐได้สะท้อนประสิทธิภาพภาครัฐ ทั้งนี้สำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ให้ฝ่ายบริหารรวบรวมข้อมูลของบุคคลภายนอก เช่น ผู้ที่มาเสนอการจัดซื้อจัดจ้าง ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยให้เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการประเมิน และให้เจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่ไปจัดโครงการเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายในการลงพื้นที่ของสำนักฯ

                    ส่วนที่ 3 : แบบวัดการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (Open Data Integrity and Transparency Assessment) หรือแบบวัด OIT เป็นการตรวจสอบระดับการเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐที่เผยแพร่ไว้บนเว็บไซต์หลักของหน่วยงาน

               สำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารงานทั่วไปทำหน้าที่เป็น Admin ทั้งนี้ในครั้งต่อไป ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ ในการทำข้อมูลเพื่อมาลงเว็บไซต์สำนักงาน เช่น แผนงานและแผนการดำเนินการต่าง ๆ ข่าวการทำกิจกรรม/โครงการ ที่สำนักฯ ดำเนินงาน เพื่อนำไปลงในเว็บไซต์สำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม และ Facebook สำนักงาน ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์งานของสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม และให้เพจของสำนักงานมีความเคลื่อนไหว และได้รับการสนใจจากผู้ติดตาม มากยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ยังได้ชี้แจงและมอบนโยบายในเรื่อง  การใช้จ่ายงบประมาณ การยืม ใช้ทรัพย์สินของทางราชการ และการจัดซื้อจัดจ้างในสำนักฯ ดังนี้

 

- การใช้งบประมาณของสำนัก มอบหมายให้ผู้อำนวยการกลุ่มมาตรการและนวัตกรรมป้องกันการทุจริต 1, ผู้อำนวยการกลุ่มมาตรการและนวัตกรรมป้องกันการทุจริต 2, ผู้อำนวยการกลุ่มติดตามและประเมินผลมาตรการ และเจ้าหน้าที่ทุกคน ร่วมกันวางแผนในการดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานใช้จ่ายงบประมาณ รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการวางแผนการใช้แผนงบประมาณ เพื่อให้สามารถดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการที่ได้กำหนดไว้ และเน้นย้ำให้ใช้งบประมาณให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และคุ้มค่า ไม่เอื้อประโยชน์ส่วนตน กลุ่มหรือพวกพ้อง และไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นเท็จ มอบกลุ่มบริหารงานทั่วไปจัดทำรายงานการใช้จ่ายงบประมาณเสนอผู้อำนวยการสำนักฯ ทุกเดือน และแจ้งเวียนให้เจ้าหน้าที่ทุกคนรับทราบ

 

- การยืมการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ให้ฝ่ายบริหารงานทั่วไป กำกับและตรวจสอบการใช้ทรัพย์สินของราชการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันมิให้มีการนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว พร้อมทั้งจัดทำขั้นตอนในการยืมพัสดุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รับทราบเพื่อปฏิบัติให้เป็นหลักเกณฑ์เดียวกัน และหากเจ้าหน้าที่พบว่ามีสิ่งที่ต้องการเพิ่มเติมให้แจ้งมาที่ฝ่ายบริหารได้ ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้

  1. เจ้าหน้าที่เขียนใบยืมวัสดุ ครุภัณฑ์ ส่งให้ฝ่ายบริหารงานทั่วไป
  2. ฝ่ายบริหารงานทั่วไปนำเสนอผู้อำนวยการสำนักฯ
  3. ผู้อำนวยการสำนักฯ อนุญาตให้ยืมวัสดุ ครุภัณฑ์
  4. ฝ่ายบริหารงานทั่วไปนำวัสดุ ครุภัณฑ์ ส่งให้เจ้าหน้าที่
  5. เจ้าหน้าที่รับวัสดุ ครุภัณฑ์
  6. เจ้าหน้าที่นำส่งคืนฝ่ายบริหารงานทั่วไป
  7. ฝ่ายบริหารงานทั่วไปตรวจรับวัสดุ ครุภัณฑ์ คืน

 

- การจัดซื้อจัดจ้างภายในสำนักงาน ในการจัดซื้อจัดจ้างขอให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ระเบียบว่าด้วยจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ และหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด

 

                   3.3 นโยบาย No Gift Policy และการรายงานการรับของขวัญและของกำนัล /
การไม่รับตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าพนักงานของรัฐ พ.. 2563

               ผู้อำนวยการสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ได้แจ้งให้บุคลากรภายในสำนักรายงานการรับของขวัญและของกำนัลตามนโยบาย No Gift Policy จากการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งอาจเป็นพฤติการณ์ที่เข้าข่ายการรับสินบน ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และรายงานให้สำนักงานทราบทุกครั้งที่มีการรับ และในการปฏิบัติงานหรือให้บริการผู้มาติดต่อขอให้ปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด        

                   3.4 การประเมินองค์กรคุณธรรมของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568  

               ผู้อำนวยการสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม มอบหมายให้ผู้อำนวยการกลุ่มมาตรการและป้องกันการทุจริต 1, ผู้อำนวยการกลุ่มมาตรการและป้องกันการทุจริต 2, ผู้อำนวยการกลุ่มติดตามและประเมินผลมาตรการ และกลุ่มงานบริหารงานทั่วไป เป็นผู้ดำเนินการเผยแพร่ประมวลจริยธรรมเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ให้แก่บุคลากรทราบ และเน้นย้ำให้บุคลากรปฏิบัติตามจริยธรรมในการดำรงตนและในการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยเคร่งครัด กำชับให้บุคลากรปฏิบัติตามพฤติกรรมที่พึงประสงค์ตามค่านิยมหลักของสำนักงาน ป.ป.ช.

                   ในส่วนการขับเคลื่อนสำนักงาน ป.ป.ช. สู่การเป็นองค์กรคุณธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖8 ตามแผนปฏิบัติราชการด้านการส่งเสริมคุณธรรมของสำนักงาน ป.ป.ช. (พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐)ได้กำหนดเป้าหมายและระดับการเป็นองค์กรคุณธรรมไว้ ดังนี้

                   - ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ - ๒๕๖๘ เป็นองค์กรคุณธรรมระดับ “พัฒนาคุณธรรม”

                    - ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ เป็นองค์กรคุณธรรมระดับ “คุณธรรมต้นแบบ”

                   - ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๗๐ เป็นองค์กรคุณธรรมระดับ “คุณธรรมต้นแบบโดดเด่น”

                   ดังนั้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖8 สำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม จะต้องดำเนินการตามเกณฑ์การประเมินองค์กรคุณธรรมข้อ ๑ - ๖ ทุกข้อ จากทั้งหมด ๙ ข้อ และจะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าข้อละ ๒ คะแนน จากคะแนนเต็มข้อละ ๓ คะแนน รวมแล้วจะต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า ๑๔ คะแนน จึงจะบรรลุเป้าหมายการเป็นองค์กรคุณธรรมระดับที่ ๒ ระดับพัฒนาคุณธรรม

 

- กำหนดเป้าหมาย “ปัญหาที่อยากแก้” “ความดีที่อยากทำ” ตามแผนส่งเสริมคุณธรรมประจำปีงบประมาณ 2568 ของสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม

 

มติที่ประชุม  รับทราบและให้ถือปฏิบัติตามข้อสั่งการของผู้อำนวยการสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรมอย่างเคร่งครัดต่อไป

 

วาระที่ 4        เรื่องเพื่อพิจารณา

 

  • ไม่มี

วาระที่ 5        เรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี)

  • ไม่มี

 

เลิกประชุมเวลา           14.45 น.

Related