สืบ ป.ป.ช. สนธิกำลังสืบนครบาล 5 จับกุมผู้รับเหมาโครงการจ้างเหมาซ่อมแซม
ถนนลูกรังทิพย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการรับเงิน แปลงปลอมเอกสารในการเบิกจ่าย โดยไม่ได้ดำเนินการซ่อมแซมจริง
วานนี้ (วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568) ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 นางสาวชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 นายธันยพัฒน์ ประมวลวิทย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม และว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ หัสดม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 1 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม และงานสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกันทำการจับกุมนายจักรกริศน์ คำพิมพ์ ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ 33/2568 ลงวันที่ 17 มกราคม 2568 ซึ่งต้องหาว่าเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 91 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91 ซึ่งสามารถดำเนินการจับตัวได้ในพื้นที่ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
โดยมีพฤติการณ์การกระทำความผิด คือ เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 เทศบาลตำบลน้ำก่ำ ได้ดำเนินการจ้างเหมาโครงการซ่อมแซมถนนลูกรัง รวม 33 โครงการ งบประมาณ 2,984,000.00 บาท (สองล้านเก้าแสนแปดหมื่นสี่พันบาทถ้วน) แต่จากทางไต่สวนปรากฏว่าไม่มีการดำเนินโครงการจริง ทั้ง 33 โครงการ
โดยมีนายจักรกริศน์ คำพิมพ์ ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับมีชื่อเป็นเจ้าของร้านแม่โขงวัสดุบริการจดทะเบียนพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ทะเบียนเลขที่ 1480500146092 ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ เลขที่ 206 หมู่ที่ 18 ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นผู้รับจ้างโครงการซ่อมแซมถนนลูกรังภายในหมู่บ้าน กับเทศบาลตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จำนวน 2 โครงการ คือ (1) บันทึกตกลงการจ้าง เลขที่ 129/2558 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 และ (2) บันทึกตกลงการจ้าง เลขที่ 151/2558 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 แต่ได้มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในโครงการดังกล่าวครบถ้วน โดยระบุว่านายจักรกริศน์ คำพิมพ์ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้รับเงินดังกล่าวจำนวน 2 โครงการ มูลค่าความเสียหาย 159,390 บาท
การกระทำของนายจักรกริศน์ คำพิมพ์ มีมูลความผิดทางอาญา มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 91 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91
อนึ่ง ในการดำเนินคดีอาญาคดีนี้ นายจักรกริศน์ คำพิมพ์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาและเป็นผู้ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด โดยในการดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจดำเนินการขอให้ศาลที่มีเขตอำนาจออกหมายเพื่อให้มีการจับและควบคุมตัว ผู้ถูกกล่าวหา เพื่อส่งตัวไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการต่อไป ตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว และในคดีนี้ปรากฏจากการไต่สวนข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หลบหนี เนื่องจากคดีนี้ อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องคดีอาญา นายจักรกริศน์ คำพิมพ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 และได้มีหนังสือแจ้งให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการให้ได้ตัวนายจักรกริศน์ คำพิมพ์ แล้วส่งไปยังสำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องนายจักรกริศน์ คำพิมพ์ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 1 และเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมทำการสืบสวน จนทราบว่านายจักรกริศน์ คำพิมพ์ ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ.33/2568 ลงวันที่ 17 มกราคม 2568 ได้หลบหนีไปพักอาศัยและทำงานอยู่พื้นที่ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 เพื่อวางแผนลงพื้นที่สืบสวนและติดตามบุคคลตามหมายจับรายดังกล่าว โดยวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.20 น. ได้พบตัวนายจักรกริศน์ฯ อยู่ที่บริเวณถนนสาธารณะหน้าบ้านเลขที่ 66/93 ท้ายซอย RCA นวนคร 5 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ 33/2568 ลงวันที่ 17 มกราคม 2568 ให้นายจักรกริศน์ คำพิมพ์ ดูและได้อ่านให้ฟังแล้ว นายจักรกริศน์ คำพิมพ์ รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัว พร้อมกับได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ให้ทราบจากนั้นจึงได้นำตัวมาทำบันทึกจับกุมที่งานสืบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และจะได้นำตัวส่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป
“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”
.............................................................................................................................
“ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มืออาชีพ โปร่งใส ตรวจสอบได้”