คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน จำนวน 1 เรื่อง
วันนี้ (8 พฤษภาคม 2567) สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีเกี่ยวกับจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน จำนวน 1 เรื่อง
กรณีกล่าวหานายสมเกียรติ วอนเพียร นายกเทศมนตรีตำบลสำรอง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ว่าจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง
สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาร้องเรียน นายสมเกียรติ วอนเพียร นายกเทศมนตรีตำบลสำรอง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ว่าจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง (วาระที่ 2) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2562 และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องและมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินตามบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ได้ยื่นไว้ จากการตรวจสอบปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลสำรอง เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2562 นายสมเกียรติ วอนเพียร ยื่นบัญชีเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รวมมูลค่า 52,190,332.23 บาท ประกอบด้วย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้
นายสมเกียรติ วอนเพียร จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 และมาตรา 167
ให้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และลงโทษทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) มาตรา 81 และมาตรา 167 ต่อไป
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
หมายเหตุ : การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด
ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 16 – 17 ธันวาคม 2567 นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 มอบหมายนางสาวนาถนิภา โรจนะ ผู้อำนวยการกลุ่มประสานการป้องกันการทุจริตภาค 7 และนายพัฒนพงศ์ มยุโรวาท เจ้าพนักงานป้องกันการทุจ...
วันที่ 11 ธันวาคม 2567 เวลา 13.00 น. นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธาน คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประจำภาค ๗ (คณ...
วันนี้ (9 ธันวาคม 2567) เวลา 08.00 – 11.30 น. จังหวัดนครปฐม สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครปฐม สำนักงาน ป.ป.ท. องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมดำเนินกิจ...
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 มอบหมายกลุ่มประสานการป้องกันการทุจริตภาค 7 นำโดยนางสาวนาถนิภา โรจนะ ผู้อำนวยการกลุ่มประสานการป้องกันการทุจริตภาค 7 พร้อมเจ้าน้าท...
ระหว่างวันที่ 20 – 21 พฤศจิกายน 2567 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 โดยนายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 จัดกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตประจำจังหวัด...
ป.ป.ช. ภาค 7 จัดประชุมขับเคลื่อนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในหน่วยงานที่มีผลการประเมินต้องปรับปรุงในพื้นที่ภาค 7 ระหว่างวันที่ 4 - 7 พฤศจิกายน 2567 นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขา...