Contrast
d338286c83521f4c665f6b177c0c0cde.jpg

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 2 (ประชาภิบาล) อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เข้ามีส่วนได้เสียในโครงการอาหารกลางวันสําหรับนักเรียน ในปีการศึกษา พ.ศ.2557 และ พ.ศ.2558 โดยทุจริต

จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7
จำนวนผู้เข้าชม: 219

19/04/2567

          วันนี้ (19 เมษายน 2567) สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กรณีกล่าวหานายเสริมฤทธิ์ สำแดงเดช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 2(ประชาภิบาล) อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เข้ามีส่วนได้เสียในโครงการอาหารกลางวันสําหรับนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 2 (ประชาภิบาล) ในปีการศึกษา พ.ศ.2557 และ พ.ศ.2558 โดยทุจริต

 

        ผลการพิจารณาของคณะกรรมการป.ป.ช  เห็นชอบว่าการกระทำของนายเสริมฤทธิ์ สำแดงเดช  ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสาร หรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น ฐานปลอมเอกสาร ฐานปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ และฐานใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 หรือมาตรา 265 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 มาตรา 152 มาตรา 157 มาตรา 161 มาตรา 264 มาตรา 265 และมาตรา 268 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทําสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ เป็นธุระในการชักชวนให้ผู้อื่นร่วมตกลงกันในการกระทําความผิดดังกล่าว ฐานใช้อุบายหลอกลวงหรือกระทําการโดยวิธีอื่นใด เป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าทําการเสนอราคาอย่างเป็นธรรมหรือให้มีการเสนอราคาโดยหลงผิด และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 มาตรา 7 และ มาตรา 12 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดกาญจนบุรี เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ พ.ศ.2544  

 

หมายเหตุ : การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

Related