ตามที่ได้รับแจ้งจากศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ช. (Corruption Deterrence Center หรือ CDC) กรณีข่าวปรากฎทางสื่อโซเชียล ว่าเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอมเรียกรับเงินจากชาวกัมพูชากรณีนำของใช้ส่วนตัวกลับประเทศ
วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 นายธีรพงศ์ ยอดกุล ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย กลุ่มงานป้องกันการทุจริต เข้าพบ นายชินวัฒน์ จันเกษม นายด่านศุลกากรช่องจอม โดยนายด่านศุลกากรช่องจอมได้ให้ข้อมูลว่า เรื่องดังกล่าวกรมศุลกากรได้มอบหมายให้สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการ ในเบื้องต้น นายด่านศุลกากรช่องจอมได้รายงานข้อเท็จจริงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และอธิบดีกรมศุลกากร ได้รับทราบแล้ว เรื่องเกิดขึ้นสืบเนื่องจากมีชาวกัมพูชาคนหนึ่งเป็นผู้ให้ข่าวกับสื่อทีวีช่องหนึ่งว่า ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรไทยเรียกรับเงิน ซึ่งจากการให้ข้อมูลพบว่าชาวกัมพูชาคนดังกล่าวมีอาชีพเป็นนายหน้าในรูปแบบของไกด์นำเที่ยวและ ได้นำชาวต่างชาติไปต่อวีซ่าที่ฝั่งประเทศกัมพูชา โดยมีการเรียกค่าบริการสูงเกินจริง ทำให้ถูกเจ้าหน้าที่ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาเพ่งเล็ง จึงอาจเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจ จึงได้ร้องเรียนกับสื่อ ซึ่งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้มีเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอมเรียกรับเงินหรือผลประโยชน์ แต่อย่างใด ต่อมาชาวกัมพูชาคนดังกล่าวได้โพสต์เฟสบุ๊ค "ขอโทษ" หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่องจอม ในการกระทำของตน
ทั้งนี้ ผ.อ. ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้กำชับให้ปฏิบัติงานให้เป็นไปตาม กฏหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
