วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายณัฐวุฒ ขมประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 3 นายศรัทธา กอบกุลบุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราชธานี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พีระศักดิ์ สุระมะณี พนักงานไต่สวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วารินชำราบ จับกุมตัว นายนวลหงส์ พรมดาว อายุ 56 ปี (นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนใหญ่) และ น.ส.อนุธิดา เวียงจันทร์ อายุ 29 ปี พร้อมด้วยของกลาง
1. ซองขาวเขียน ชื่อลูกจ้างภายในบรรจุธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 10 ฉบับ ซึ่งเป็นธนบัตรที่ได้ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
2. ซองขาวเขียน ชื่อลูกจ้าง 10,000 ภายในบรรจุธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 10 ฉบับ *ซึ่งเป็นธนบัตรที่ได้ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
3. ซองขาวเขียน ชื่อลูกจ้าง 10,000 ภายในบรรจุธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 10 ฉบับ *ซึ่งเป็นธนบัตรที่ได้ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
4. ซองขาวเขียน ค่าต่อสัญญาจ้าง ชื่อลูกจ้าง จ่ายก่อน 5,000 บาท ภายในบรรจุธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 5 ฉบับ
5. ซองขาวเขียน ค่าต่อสัญญาจ้าง ชื่อลูกจ้าง จ่ายก่อน 5,000 บาท ภายในบรรจุธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 5 ฉบับ
6. ซองขาวเขียน ชื่อลูกจ้าง จ่ายก่อน 5,000 ภายในบรรจุธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 5 ฉบับ
7. ซองสีน้ำตาล จำนวน 1 ซอง
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
.
พฤติการณ์ในการจับกุมกล่าวคือ สืบเนื่องจาก นายณัฐวุฒ ขมประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ภาค 3 ได้รับการร้องเรียนจากลูกจ้างองค์การบริหารส่วนตำบลดอนใหญ่ ว่านายนวลหงส์ พรมดาว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนใหญ่ มีพฤติการณ์ในการเรียกรับเงินค่าต่อสัญญาจ้างลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลดอนใหญ่ ที่กำลังจะหมดสัญญาในวันที่ 30 กันยายน 2566 จำนวนประมาณ 20 ราย โดยเรียกรับเงินค่าต่อสัญญารายละ
5,000 - 10,000 บาท และจะใช้นางสาวอนุธิดา เวียงจันทร์ หรือแคท ลูกจ้างองค์การบริหารส่วนตำบลดอนใหญ่
เป็นผู้ไปติดต่อแจ้งให้กับลูกจ้างทั้ง 20 ราย ว่าจะต้องจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 นี้ มิฉะนั้น
จะไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้าง จึงได้รายงานให้นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบ จากนั้นได้สั่งการให้ นายศรัทธา กอบกุลบุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราชธานี และ พ.ต.ท.พีระศักดิ์ สุระมะณี พนักงานไต่สวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนในการจับกุม โดยชุดจับกุมได้นำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 30 ฉบับ ซึ่งรับมอบจากสายลับ (ผู้เสียหาย) ไปลงประจำวันล่อซื้อไว้ที่ สภ.วารินชำราบ จากนั้นในวันนี้ (17 ส.ค. 2566) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้วางแผนโดยนำธนบัตร
ที่ลงประจำวันไว้มอบให้สายลับนำไปแจกจ่ายให้กับพวกเพื่อทำการล่อซื้อโดยให้เขียนชื่อของผู้มอบเงินและตัวเลขจำนวนเงินให้ปรากฏที่หน้าซอง แล้วพากันนำไปมอบให้ที่ห้องทำงานของนายนวลหงส์ฯ แต่นายนวลหงส์ฯ ได้ปฏิเสธ โดยแจ้งว่าให้นางสาวอนุธิดา เวียงจันทร์ หรือแคท เป็นผู้ไปรวบรวมเงินมามอบให้ที่ห้องทำงาน สายลับจึงได้แจ้ง
ถึงพฤติการณ์ดังกล่าวให้ชุดจับกุมทราบ จากนั้นสายลับกับพวกได้มอบซองเงินล่อซื้อ ให้กับนางสาวอนุธิดาฯ
แล้วส่งสัญญานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ขณะนี้นางสาวอนุธิดาฯ กำลังนำเงินไปมอบให้นายนวลหงส์ฯ
ที่ห้องทำงานแล้ว ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผลการตรวจค้นปรากฏว่า พบของกลางทั้ง 6 รายการ บรรจุอยู่ในซองสีน้ำตาลสอดอยู่ภายในแฟ้มที่วางอยู่โต๊ะทำงาน ชุดจับกุมจึงได้นำมาตรวจสอบกับสำเนาประจำวันที่ได้ลงประจำวันไว้ โดยของกลางรายการ ที่ 1 2 และ 3 มีธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ถูกต้องตรงกัน
กับที่ได้ลงประจำวันไว้ทั้ง 30 ฉบับ สอบถาม นายนวลหงส์ฯ ได้ให้การปฏิเสธว่า ตนน่าจะถูกกลั่นแกล้ง
เนื่องจากเข้มงวดวินัยกับเจ้าหน้าที่ในองค์การบริหารส่วนตำบลดอนใหญ่และไม่ทราบเรื่องเงิน แต่นางสาวอนุธิดาฯ ได้รับสารภาพว่าได้รับมอบหมายจากนายนวลหงส์ฯ ให้เป็นผู้ติดต่อและรวบรวมเงินค่าต่อสัญญาทั้ง 6 ซอง ที่วางอยู่บนโต๊ะมามอบให้กับนายนวลหงส์ฯ จึงได้นำมามอบให้ และตัวนางสาวอนุธิดาฯ เองก็ถูกนายนวลหงส์ฯ
เรียกให้จ่ายเงินให้นายนวลหงส์ฯ จำนวน 10,000 บาท ชุดจับกุมทราบดังนั้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิผู้ต้องหานำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป