เมื่อวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต จัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อรณรงค์และแจ้งเบาะแสการทุจริตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการแจ้งเบาะแส ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ ห้องประชุมนภาลัย โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โดยนางแก้วตา ชัยมะโน ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้นายมีชัย โอ้น ผอ.กลุ่มส่งเสริมและบูรณาการ การมีส่วนร่วม 1 กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกันมีส่วนร่วมในการรณรรงค์ต่อต้านการทุจริต ตามมาตรา 33 และเพื่อเสริมสร้างความรู้ ปลูกฝังทัศนคติ และสร้างค่านิยมในเยาวชนและประชาชนทั่วไปให้มีความตระหนักในปัญหาการทุจริต พร้อมช่วยกันเฝ้าระวังสอดส่องการทำการทุจริต และแจ้งเบาะแสการทุจริตอย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมทั้งเพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาเครื่องมือ หรือกลไกในการแจ้งเบาะแสการทุจริตให้มีประสิทธิภาพ ดำเนินการจัดระหว่างวันที่ 16 – 17 กุมภาพันธ์ 2566 ณ ห้องประชุมนภาลัย   โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

               โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย เครือข่ายสมาชิกชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต ในพื้นที่ภาค 3 และภาค 4 รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ จำนวน 53 คน กิจกรรมดังกล่าวมีกำหนดดำเนินการ 2 วัน โดยกิจกรรมในวันแรกประกอบด้วย ในช่วงเช้าจะเป็นการบรรยาย เรื่อง “เทคนิคและกระบวนวิธีในการแจ้งเบาะแสที่ปลอดภัยสำหรับภาคประชาชน”  และในช่วงบ่ายจะเป็นการอภิปราย เรื่อง “เทคนิคการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และการแจ้งเบาะแสอย่างมืออาชีพ” ส่วนวันที่สองในช่วงเช้าจะเป็นการแบ่งกลุ่มเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ “ปฏิบัติการระดมความคิดแนวทางการแจ้งเบาะแสของภาคประชาชน” และในช่วงบ่ายจะเป็นการแบ่งกลุ่มเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ “การนำเสนอแนวทางการแจ้งเบาะแสของภาคประชาชน” ทั้งนี้ การที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้จัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อรณรงค์และแจ้งเบาะแสการทุจริตภาคตะวันออกเฉียงเหนือในครั้งนี้  จะทำให้เครือข่ายภาคประชาชนชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริตได้รับความรู้หลายด้าน ได้เพิ่มศักยภาพในแจ้งเบาะแสทำให้ได้เบาะแส ที่ถูกต้อง ตามกระบวนการ ขั้นตอน ของทางสำนักงาน ป.ป.ช. กำหนด รวมทั้งได้ร่วมกำหนดแนวทางการแจ้งเบาะแสของภาคประชาชนที่สามารถช่วยให้สนับสนุนการแจ้งเบาะแสของภาคประชาชนได้มีประสิทธิภาพ