จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 179
ป.ป.ช. ร่วมหารือ กับกรมที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแนวทางการดำเนินการป้องกันทุจริตกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายในที่ดินของรัฐ
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม เข้าร่วมประชุมกับกรมที่ดิน เพื่อหารือการจัดทำแนวทางการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายในที่ดินของรัฐ ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 6 กรมที่ดิน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี
โดยมีนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นประธานการประชุม และมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย อาทิ กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมป่าไม้ กรมเจ้าท่า สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
การประชุมดังกล่าวมีที่มาสืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 มีมติรับทราบมาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายในที่ดินของรัฐ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก รับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ และสรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวมเสนอต่อสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน โดยกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กรมที่ดินเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาสภาพปัญหาของการดำเนินการในปัจจุบัน ตลอดจน ข้อพิจารณา ข้อเสนอแนะ และแนวทางการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการทุจริตในกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายในที่ดินของรัฐ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ โดยมีประเด็นผลการหารือที่สำคัญ เช่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายในที่ดินของรัฐจะพิจารณาดำเนินการปรับปรุงกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะ การพิจารณาปรับปรุงระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการอนุญาตให้ดูดทราย พ.ศ. 2546 และการปรับปรุงแก้ไข “มาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการฟื้นฟูพื้นที่ขุด ตัก และดูดทรายในแม่น้ำ” เป็นต้น ซึ่งกรมที่ดินจะดำเนินการรวบรวมผลการพิจารณาและจัดทำรายงานสรุปความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป