ป.ป.ช. หารือ สตช. กำหนดแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร
จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 80
สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ได้เสนอเรื่อง การศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร ไปยังคณะรัฐมนตรีตามนัยมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 มีมติ “รับทราบข้อเสนอแนะฯ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ และมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติ โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสรุปผลการพิจารณาผลการดำเนินการความเห็นในภาพรวม และส่งให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป”
ทั้งนี้ สำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม ได้ประชุมหารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุม
ที่ประชุมประกอบด้วยผู้แทนจาก 4 หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ประกอบด้วย กองทะเบียนประวัติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานกิจการยุติธรรมกระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ปฏิบัติงานด้านทะเบียนประวัติอาชญากรเรื่องดังกล่าวมีที่มาจากการที่ปรากฏปัญหาการจัดเก็บข้อมูลประวัติอาชญากรที่ยังไม่เป็นปัจจุบัน และไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลหรือนำข้อมูลมาใช้เพื่อประโยชน์ในการบริหารกระบวนการยุติธรรมร่วมกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการกระทำทุจริตหรือประพฤติมิชอบ โดยสำนักงาน ป.ป.ช. มีข้อเสนอให้แก้ปัญหาระยะเร่งด่วน ในประเด็นเกี่ยวกับกรอบระยะเวลาการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวต้องอาศัยการบูรณาการฐานข้อมูลร่วมกันระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม
ในการนี้ สำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม จะได้ดำเนินการติดตาม ประเมินผล เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิของการขับเคลื่อนตามการศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทะเบียนประวัติอาชญากร เพื่อสร้างความมั่นใจว่า มาตรการหรือข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในเรื่องดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ที่สามารถขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้อย่างเข้มงวด อันเป็นการรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ และมุ่งมั่นสร้างสังคมไทยที่ใสสะอาด ไร้การทุจริตต่อไป
Related
