Contrast
Font
8a228819f157729a649c7227952902ab.jpg

ป.ป.ช. เข้าร่วมการประชุมประจำปีของคณะทำงาน ACTWG ครั้งที่ 40 ณ เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 32

28/02/2568

ป.ป.ช. เข้าร่วมการประชุมประจำปีของคณะทำงาน ACTWG ครั้งที่ 40 ณ เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี

 

ระหว่างวันที่ 27 - 28 กุมภาพันธ์ 2568 คณะผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ช. นำโดย นางสาวชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 พร้อมด้วย นางสาววันวรา ศิลปะวิลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการและคดีทุจริตระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่สำนักกิจการและคดีทุจริตระหว่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมประจำปีของคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการทุจริตและความโปร่งใสในกรอบเอเปค (APEC Anti-Corruption and Transparency Experts’ Working Group: ACTWG) ครั้งที่ 40 ณ เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี

 

การประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการต่อต้านการทุจริตในระดับสากลและสร้างมาตรฐานการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเป็นเวทีให้สมาชิก ACTWG แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวปฏิบัติที่ดี ตลอดจนรายงานความคืบหน้าในการต่อต้านการทุจริตของเขตเศรษฐกิจตน

 

ในการนี้ เขตเศรษฐกิจสมาชิกและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศได้กล่าวรายงานการดำเนินการและพัฒนาการด้านการต่อต้านการทุจริตภายใต้กรอบความร่วมมือเอเปค การอนุวัติการตามอนุสัญญา UNCAC และปฏิญญาปักกิ่ง โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ การสร้างคุณธรรมและระบบตรวจสอบภายในที่เหมาะสมในภาครัฐและภาคเอกชน การจัดการฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนการต่อสู้กับการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อคุ้มครองความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

 

ในโอกาสนี้ ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ช. ได้รายงานถึงแนวปฏิบัติที่ดีของไทยในการพัฒนานโยบายต่อต้านการทุจริตและส่งเสริมคุณธรรมในภาคเอกชน โดยกล่าวถึงการจัดตั้งคณะทำงานระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. และแนวร่วมต่อต้านการคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริต และมีมาตรการตรวจสอบภายในที่เหมาะสม ผ่านการจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนา
และส่งเสริมบรรษัทธรรมาภิบาลเพื่อต่อต้านการทุจริตในภาคเอกชน โดยได้มีการศึกษามาตรการจูงใจของภาครัฐ เช่น การออกผลิตภัณฑ์การเงินของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM-BANK) เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนมีมาตรการและมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตที่ออกโดยภาครัฐ รวมทั้งจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สมาคมส่งเสริมสถานบันกรรมการบริษัทไทย และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจกว่า 51 แห่ง เพื่อพัฒนาและยกระดับธรรมาภิบาลและบรรษัทภิบาลในภาคเอกชน

Related