สืบ ป.ป.ช. ภาค 3 รวบอดีตช่างซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องชุมสาย ลักลอบเดินสายสัญญาณโทรศัพท์ มูลค่าความเสียหาย กว่าหนึ่งล้านบาท
จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 90
สืบ ป.ป.ช. ภาค 3 รวบอดีตช่างซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องชุมสายลักลอบเดินสายสัญญาณโทรศัพท์ มูลค่าความเสียหาย กว่าหนึ่งล้านบาท
วันที่ 31 มีนาคม 2568 สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายณัฐวุฒ ขมประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 3 นายหิรัญ ไชยกันยา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ มอบหมายให้ งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 และนักสืบสวนคดีทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ จับกุม นายศรุต พัชนี อายุ 54 ปี ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่ จ 60/2567 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ในฐานความผิด เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่ โดยทุจริต อันเป็นการเสียแก่หน่วยงาน และฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 โดยมีพฤติการณ์การกระทำความผิดกล่าวคือ ผู้ถูกกล่าวหหาในขณะนั้นเป็นพนักงานทำหน้าที่ช่างซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องชุมสายบุรีรัมย์ ประจำศูนย์บริการตอนใน ได้ได้ลักลอบต่อสัญญาณโทรศัพท์ให้ผู้ที่โทรศัพท์มาจากต่างประเทศใช้หมายเลขโทรศัพท์ของ บมจ. ทีโอที ที่ยังไม่ได้เปิดใช้บริการและกำหนดไว้ไม่ให้ผ่านฟังก์ชั่นการคิดเงิน ทำให้ บมจ. ทีโอที ไม่ได้รับเงินค่าบริการโทรศัพท์จากผู้ใช้บริการต่างประเทศ เป็นเหตุให้ บมจ. ทีโอที ได้รับความเสียหาย จำนวน 1,036,800บาท (หนึ่งล้านสามหมื่นหกพันแปดร้อยบาทถ้วน)
โดย พนักงานเจ้าหน้าที่ งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 ร่วมกับนักสืบสวนคดีทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รวบรวมข้อมูลจนสืบทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีอยู่ภายในพื้นที่ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการเฝ้าสังเกตการณ์ จนเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 พบตัวผู้ถูกกล่าวหาในบริเวณใกล้เคียง จึงแสดงตัวเข้าจับกุมบุคคลดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ และดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2566 มาตรา 22 และมาตรา 23 พร้อมทั้งนำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปทำบันทึกการจับกุม พิมพ์ลายนิ้วมือ ลงบันทึกประจำวัน และนำตัวผู้ถูกกล่าวหาส่งไปยัง สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 3 จังหวัดสุรินทร์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ขอแจ้งให้ทราบว่า หากท่านพบเห็นการทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 1205 เว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช. www.nacc.go.th หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทั่วประเทศ
..........................................................................
“ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ”
Related
