Contrast
Font
c96b1c7c9745db1504f36b0c8c8390a7.jpg

หมดอนาคต! นายกฯ ท่าศิลา กับพวก ถูกจับคาสำนักงาน ปมรีดเงินค่าต่อสัญญาจ้าง คนละ 2.5 หมื่นบาท

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 324

03/09/2568

หมดอนาคต! นายกฯ ท่าศิลา กับพวก ถูกจับคาสำนักงาน ปมรีดเงินค่าต่อสัญญาจ้าง คนละ 2.5 หมื่นบาท

           วันนี้ (3 กันยายน 2568) สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์  พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้ นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มสืบสวนฯ 2 สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย ดังนี้

           ผู้ต้องหารายที่ 1 นายมานะ (สงวนนามสกุล) นายกเทศมนตรีตำบลท่าศิลา อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ฐานความผิด “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการ อย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมาตรา 173

           ผู้ต้องหารายที่ 2 นายวินัย (สงวนนามสกุล) ฐานความผิด “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่”ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157  และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมาตรา 173 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

           สืบเนื่องจาก เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2568 ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า นายมานะได้เรียกประชุมลูกจ้างเหมาบริการ จำนวนประมาณ 50 - 60 คน ซึ่งมีการสั่งเก็บโทรศัพท์มือถือทั้งหมดและแจ้งว่าหากผู้ใดประสงค์จะทำงานต่อให้เข้าพบตนเป็นการส่วนตัว จากนั้น มอบหมายให้หัวหน้าสายงานประปาแจ้งลูกจ้างเหมาบริการ ว่าหากต้องการต่อสัญญาจะต้องชำระค่าต่อสัญญา คนละ 25,000 บาท ทำให้มีลูกจ้างหลายรายเข้าพบเพื่อเจรจาของแบ่งจ่ายเงิน 2 รอบ โดยนายมานะ แจ้งให้ผู้เสียหายนำเงินไปมอบให้กับนายวินัย เจ้าของร้านค้า ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดนายมานะ รอบแรก จำนวน 15,000 บาท และรอบที่ 2 อีก 10,000 บาท ตามคำสั่งของนายมานะ ผู้เสียหายจึงรวมตัวกันร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่

          สำนักงาน ป.ป.ช. บก.ปปป. และ ป.ป.ท. จึงได้สนธิกำลังร่วมกันสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับ และเข้าจับกุมตัวนายมานะ และนายวินัย พร้อมแสดงหมายจับ ณ ห้องทำงานเทศบาลตำบลท่าศิลา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบพร้อมแจ้งสิทธิภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 มาตรา 22 และมาตรา 23 โดยได้นำตัวนายมานะ และนายวินัย ไปทำบันทึกจับกุม ณ สถานีตำรวจภูธรส่องดาว จังหวัดสกลนคร และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

....................................................................................

“ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ” 

“ ซื่อสัตย์  เป็นธรรม  มืออาชีพ  โปร่งใส  ตรวจสอบได้ ”

Related