จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 1810
กรณีที่ 1 พ้นจากตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจและมิได้ดำรงตำแหน่งอื่นที่มีสถานะเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ในตำแหน่งใดอีก จะมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในกรณีพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยถือเอากรณีพ้นจากตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจนั้นเป็นการพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
กรณีที่ 2 ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจเพียงแห่งเดียว เมื่อต่อมาพ้นจากตำแหน่งเดิมถือว่าพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเมื่อได้รับแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่งวาระที่ 2 ในวันเดียวกัน กรณีดังกล่าวมีหน้าที่ยื่นบัญชีพ้นจากตำแหน่งในวาระที่ 1 และต้องยื่นบัญชีกรณีเข้ารับตำแหน่งวาระที่ 2 ตามมาตรา 105 วรรคสาม (2)
กรณีที่ 3.ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ A B และ C หากพ้นกรรมการรัฐวิสาหกิจ A แต่ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการในรัฐวิสาหกิจ B และ C ในกรณีดังกล่าวไม่ต้องยื่นพ้นจากตำแหน่งรัฐวิสาหกิจ A เพราะยังมีสถานะเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และยังคงมีหน้าที่ยื่นบัญชีกรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่ต่อไป
กรณีที่ 4 ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง และได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งไว้แล้ว ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจอีกตำแหน่ง ไม่ต้องยื่นบัญชีกรณีเข้ารับตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 105 วรรคท้าย