Contrast
banner_default_3.jpg

ป.ป.ช.มหาสารคาม แถลงผลการดำเนินงานเดือนมีนาคม 2567

จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม
จำนวนผู้เข้าชม: 316

03/04/2567

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม แถลงผลการดำเนินงานประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 ดังนี้

  1. จัดกิจกรรมพัฒนาเยาวชน เสริมความรู้ภัยร้ายทุจริตใกล้ตัว สร้างการมีส่วนร่วมพลังคนรุ่นใหม่ 

    วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567 ที่ศูนย์ประชุมแก่งเลิงจาน อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม จัดกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการสมาชิกชมรมเยาวชน STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต ภายใต้โครงการ STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนในจังหวัดมหาสารคาม มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีทัศนคติ ค่านิยม ไม่ยอมรับการทุจริตทุกรูปแบบ ส่งเสริมให้กลุ่มเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริต ร่วมเสนอแนวคิดและกำหนดแนวทางในการขับเคลื่อนการป้องกันการทุจริตในระดับพื้นที่ด้วยพลังเยาวชน รวมทั้งขยายองค์ความรู้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตไปยังครอบครัว สถานศึกษา และชุมชน ในกิจกรรมฯ ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร.ฤทธิรงค์ สุน้อยพรม ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ด้านวิชาการ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ โดยมีนายนิรัตน์ เนื่องศรี ประธานชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดมหาสารคาม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรม สำหรับเนื้อในกิจกรรมช่วงแรก เป็นการบรรยายความรู้ หัวข้อ “บทบาทเยาวชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต” และแนะนำการเข้าใช้งานแพลตฟอร์มหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา โดย นายพีระณัฐ สีทองเดชารัตน์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม จากนั้นเป็นการบรรยายความรู้ หัวข้อ “ผลกระทบจากการทุจริต และแนวทางสังเกตการณ์การทุจริตเกี่ยวกับงานก่อสร้างของหน่วยงานภาครัฐที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง” โดยมี นายโฆษิต เหล่าสุวรรณ ประธานหอการค้าจังหวัดมหาสารคาม และกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านการทุจริต สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท) เป็นวิทยากร และการทำกิจกรรมระดมความคิดเห็น ในหัวข้อ “เครือข่ายเยาวชน กับการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต” โดย คณะวิทยากรจากสถาบันพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน กิจกรรมดังกล่าวมีนักเรียน นิสิต นักศึกษา และเยาวชน ในจังหวัดมหาสารคามเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 50 คน จากสถานศึกษาและหน่วยงาน 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนโกสุมวิทยาสรรค์ โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรค์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) โรงเรียนผดุงนารี และสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม

  2. ร่วมสนับสนุนบุคลากรเป็นวิทยากรส่งเสริมความรู้ให้กับหน่วยงานภายนอก
    2.1 วันที่ 7 มีนาคม 2567 ที่ห้องประชุมตักสิลาคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมตักสิลามหาสารคาม คณะเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม ร่วมเป็นวิทยากรตามโครงการเสริมสร้างคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ จังหวัดมหาสารคาม เป็นการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ และตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งเห็นชอบให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงาน เข้าร่วมรับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือ ITA โดยใช้แนวทางและเครื่องมือการประเมินตามแบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน (บุคลากรภาครัฐ) แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก (บุคคลภายนอกที่มารับบริการ) และการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะบนเว็บไซต์ของหน่วยงาน ซึ่งจัดโดยสำนักงานจังหวัดมหาสารคาม โดยมีนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ และมีกลุ่มเป้าหมาย คือ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง ของหน่วยงานภาครัฐ จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ และราชการส่วนภูมิภาค ในจังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมโครงการฯ กว่า 200 คน 
    2.2 วันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหวาย อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม นายเสกสรรณ์ สมมาตย์ ผู้อํานวยการสํานักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้นายพีระณัฐ สีทองเดชารัตน์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่เป็นวิทยากรในการบรรยายความรู้หัวข้อ "บทบาท อำนาจหน้าที่ของสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล กฎหมายข้อทักท้วงเกี่ยวกับการปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแนวทางการป้องกันการทุจริตใ" โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 45 คน
    2.3 วันที่ 28 มีนาคม 2567 ที่ห้องประชุมรองศาสตราจารย์ ดร.สมเจตน์ ภูศรี ชั้น 5 อาคารเฉลิมพระเกียร์ 72 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม  นายเสกสรรณ์ สมมาตย์ ผู้อํานวยการสํานักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้นายพีระณัฐ สีทองเดชารัตน์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญพิเศษ ทำหน้าที่เป็นวิทยากรในการบรรยายความรู้หัวข้อ "อบรมสร้างความรู้ความเข้าใจและติดตามการเตรียมความพร้อมการนำข้อมูลเข้าสู่การประเมิน ITA"
  3. ลงพื้นที่เก็บข้อมูลแบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก หรือแบบวัด EIT อปท. การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA)
    ในช่วงวันที่ 1-31 มีนาคม 2567 สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้ดำเนินการลงพื้นที่เก็บข้อมูลแบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก (EIT) การประเมิน ITA องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอวาปีปทุม อำเภอนาดูน และอำเภอโกสุมพิสัย รวมทั้งหมดจำนวน 36 หน่วยงาน
  4. ร่วมซักซ้อมแนวทางการขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์ เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร
    วันที่ 21 - 22 มีนาคม 2567 นายเสกสรรณ์ สมมาตย์ ผู้อํานวยการสํานักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม และนายภูวดล สานุการ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตปฏิบัติการ เข้าร่วมการประชุมซักซ้อมแนวทางการขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณประโยชน์เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร (ขุดดินแลกน้ำ) ร่วมกับสำนักงานจังหวัดมหาสารคาม และสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการสำรวจและออกแบบ จัดทำแบบแปลนสำหรับโครงการขุดลอก โดยมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง คือ การสำรวจพื้นที่ขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณะประโยชน์ ณ สถานที่จริง และการออกแบบแปลนการขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณะประโยชน์ โดยใช้กล้อง Total Station เครื่อง Sonar และโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยมีผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กองช่าง ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 13 อำเภอ เข้าร่วมกิจกรรมฯ นอกจากนี้ได้เชิญวิศวกรจาก บริษัท Hi-Target ร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้กล้อง GPS-GNSS RTK System เพื่อใช้ในการสำรวจและออกแบบโครงการขุดลอกเพื่อให้เกิดความแม่นยำในการคำนวณปริมาณดินขุดและดินถม
  5. ดำเนินการป้องปรามและป้องกันการทุจริตเชิงรุก
    5.1 ลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์ กรณีประชาชนผู้เดือดร้อนฟาร์มสุกรส่งกลิ่นเหม็น แจ้งเบาะแสสงสัยหน่วยงานรัฐดำเนินการเป็นไปตามระเบียบในการออกใบอนุญาตและควบคุมดูแลตามมาตฐานหรือไม่
    วันที่ 21 มีนาคม 2567 นายเสกสรรณ์ สมมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่สังเกตการณ์และร่วมรับฟังปัญหา กรณีประชาชนผู้เดือดร้อนแจ้งเบาะแสว่าหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินการอาจไม่เป็นไปตามระเบียบในการอนุญาตให้มีการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทฟาร์มสุกร ส่งกลิ่นเหม็นกระทบต่อคุณภาพชีวิตสืบเนื่องจากประชาชนที่ในพื้นที่ตำบลโคกก่อ อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการเลี้ยงสุกร ส่งผลกระทบทำให้น้ำเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น โดยได้ร้องเรียนปัญหาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการบรรเทาและแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้ร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อมาหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้กำหนดประชุมเพื่อร่วมกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในวันที่ 21 มีนาคม 2567 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกก่อ อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม จึงได้แจ้งมายังสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้เข้าร่วมสังเกตการณ์ตามประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าอาจมีการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในลักษณะมีส่วนได้ส่วนเสียในการพิจารณาอนุมัติอนุญาตการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทฟาร์มสุกร

    จากการลงพื้นที่พบว่าฟาร์มสุกรดังกล่าว เป็นฟาร์มสุกรขุน ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 7 ตำบลโคกก่อ มีโรงเรือนแบบปิด และมีระบบจัดการสิ่งปฏิกูล และตั้งอยู่ห่างจากชุมชนรอบข้างไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยก่อนหน้าที่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ได้ร้องเรียนปัญหาไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลโคกก่อ เพื่อให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ผู้ประกอบกิจการได้แก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน หลังจากนั้นก็ได้รับการแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็น แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด จึงได้มีการจัดทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการ ผู้เดือดร้อนในชุมชน และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการได้ลดจำนวนการเลี้ยงสุกรลงเหลือ 600 ตัว และให้ดำเนินการตามวิธีการขจัดกลิ่นไม่ให้สร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดเป็นระยะเรื่อยมา รวมทั้งศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ได้ดำเนินการตรวจวัดกลิ่น เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 เวลา 09.00 – 15.00 น. โดยใช้เครื่องมือตรวจวัดกลิ่น nasal ranger ใช้เกณฑ์อัตราส่วน Dilution – to-threshold (D/T) ซึ่งผลการตรวจวัด พบว่า ครั้งแรก เวลา 11.37 น. ได้ค่าความเข้มกลิ่นน้อยกว่า 2 หน่วยกลิ่น (D/T) ครั้งที่ 2 เวลา 11.52 น. ได้ค่าความเข้มกลิ่น 7 หน่วยกลิ่น (D/T) ครั้งที่ 3 เวลา 12.02 น. ได้ค่าความเข้มกลิ่น 15 หน่วยกลิ่น (D/T) และได้แจ้งผลว่าสถานประกอบกิจการฟาร์มสุกรดังกล่าวก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญต่อผู้อาศัยใกล้เคียงจริง

                ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้ร่วมให้ข้อสังเกตต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกก่อ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมืองมหาสารคาม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมหาสารคาม และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองมหาสารคาม เป็นต้น ในการร่วมกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับการบรรเทาความเดือดร้อน รวมทั้งผู้ประกอบกิจการ สามารถประกอบกิจการได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานที่กำหนดต่อไป

    5.2 ลงพื้นที่ขอทราบข้อเท็จจริง กรณีได้แจ้งเบาะแสจากประชาชน สงสัยการก่อสร้างถนน คสล. อบต.เชียงยืน 2 โครงการ เข้าข่ายแบ่งซื้อแบ่งจ้างหรือไม่ ? เหตุถนนติดกัน ก่อสร้างพร้อมกัน ผู้รับจ้างรายเดียวกัน

    วันที่ 29 มีนาคม 2567 นายเสกสรรณ์ สมมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้นายพีระณัฐ สีทองเดชารัตน์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต นำคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริงจากกรณีที่ได้รับหนังสือแจ้งเบาะแสการทุจริตจากเครือข่ายภาคประชาชน เนื่องจากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินงานขององค์การบริหารส่วนตำบลเชียงยืน ว่ามีการแบ่งซื้อแบ่งจ้างโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 2 โครงการ ซึ่งมีพื้นที่ดำเนินการติดกัน ดำเนินการก่อสร้างพร้อมกัน และมีผู้รับจ้างรายเดียวกัน

    จากการลงพื้นที่ขอทราบข้อเท็จจริง ผู้เกี่ยวข้องขององค์การบริหารส่วนตำบลเชียงยืน ได้ให้ข้อมูลว่า ตามประเด็นที่มีการแจ้งเบาะแสนั้น เป็นโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 2 โครงการ คือ

       1) สัญญาเลขที่ 012/2567 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านสร้างแก้ว หมู่ที่ 17 เส้นบ้านนายแดง ถึง หลังโรงเรียนเชียงยืนพิทยาคม ขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 212 เมตร หนา 0.15 เมตร หรือพื้นที่คอนกรีตไม่น้อยกว่า 848 ตารางเมตร พร้อมป้ายโครงการ วงเงินจ้างก่อสร้าง 494,000 บาท

       2) สัญญาเลขที่ 016/2567 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านสร้างแก้ว หมู่ที่ 17 เส้นข้างบริษัทคูโบต้า ถึง บ่อขยะ ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 170 เมตร หนา 0.15 เมตร หรือพื้นที่คอนกรีตไม่น้อยกว่า 850 ตารางเมตร พร้อมป้ายโครงการ วงเงินจ้างก่อสร้าง 494,000 บาท

                   โดย อบต.เชียงยืน ชี้แจงข้อมูลว่า ทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการตาม พรบ.จัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 55(3) , มาตรา 56 (2) (ข) และระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหนังสือคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุดที่ กค(กวจ.) 0405.4/2725 ลงวันที่ 21 มกราคม 2563 เรื่อง ข้อหารือการแบ่งซื้อแบ่งจ้าง และได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ทั้ง 2 โครงการดังกล่าวมีสถานที่ก่อสร้างอยู่ที่หมู่ที่ 17 เหมือนกัน และอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน แต่สถานที่ของถนนอยู่คนละเส้นและขนาดของถนนมีความกว้างไม่เท่ากัน จึงต้องการดำเนินการจ้างก่อสร้างแยกกันเป็น 2 โครงการ

    ในการลงพื้นที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้ข้อสังเกตตามประเด็นต่าง ๆ ประกอบด้วย

                   - นายสุรัช แก่นผา นักวิชาการคลังชำนาญการ ผู้แทนสำนักงานคลังจังหวัดมหาสารคาม

                   - ดร.ฤทธิรงค์ สุน้อยพรม ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ด้านวิชาการ สำนักนายกรัฐมนตรี

                   - นายโฆษิต เหล่าสุวรรณ กรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมฯ (กรรมการ สปท. สำนักงาน ป.ป.ท.)

                   - นายวันชัย สุวรรณทัต และว่าที่ร้อยตรี บุญเหลือ สีทิศ ผู้แทนชมรม STRONG จังหวัดมหาสารคาม

    ซึ่งคณะติดตามฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า โครงการดังกล่าว เป็นงานประเภทเดียวกัน คืองานทางคอนกรีตเสริมเหล็ก ระยะเวลาดำเนินการพร้อมกัน คือ 18 ตุลาคม 2566 – 15 มกราคม 2567 สถานที่ดำเนินการติดกันคือโครงการที่ 1 มีจุดเริ่มต้นก่อสร้างติดกับด้านข้างบริเวณท้ายโครงการที่ 2 ซึ่งแม้จะมีขนาดปริมาณงานไม่เท่ากัน แต่ควรพิจารณากำหนดรายละเอียดที่เกี่ยวข้องและการประกาศจัดซื้อจัดจ้างมิให้เป็นการเอื้อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ ซึ่งงานก่อสร้างทั้ง 2 โครงการดังกล่าวใช้วิธีจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง มีผู้รับจ้างรายเดียวกัน คือ หจก. อ. นำโชค 1992 และตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่างบประมาณในการจ้างก่อสร้างนั้นมาจากงบประมาณใด ได้รับจัดสรรเมื่อใด ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้มีการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการตรวจรับและยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณให้กับผู้รับจ้างแต่อย่างใด เนื่องจากพบว่ามีปริมาณงานบางส่วนอาจไม่เป็นไปตามสัญญาจ้างก่อสร้าง ซึ่งหน่วยงานได้แจ้งต่อผู้รับจ้างให้ดำเนินการแก้ไขแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขงานของผู้รับจ้างซึ่งปัจจุบันเกินระยะเวลาที่กำหนดสัญญาแล้ว ทางคณะติดตามฯ จึงได้ตั้งข้อสังเกตและแจ้งให้ผู้เกี่ยข้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อมิให้เกิดการทุจริตและความเสียหายแก่งบประมาณภาครัฐต่อไป
  6. สังเกตการณ์การรับนักเรียน ปีการศึกษา 2567 ตามมาตรการป้องกันทุจริตแป๊ะเจี๊ยะ

    วันที่ 23 - 24 มีนาคม 2567 นายเสกสรรณ์ สมมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้นายพีระณัฐ สีทองเดชารัตน์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามสังเกตการณ์การดำเนินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2567 ตามมาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

    โดยวันที่ 23 มีนาคม 2567 สังเกตการณ์การสอบเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ม.1) ของโรงเรียนผดุงนารี ซึ่งสามารถรับนักเรียนในระดับชั้น ม. 1 ประเภทห้องเรียนปกติ 16 ห้อง จำนวน 640 คน และห้องเรียนพิเศษ 2 ห้อง จำนวน 60 คน รวม 18 ห้อง จำนวน 700 คน ซึ่งห้องเรียนพิเศษได้มีการดำเนินการคัดเลือกนักเรียนเสร็จสิ้นเรียบร้อยก่อนหน้าแล้ว ส่วนในการสอบในวันนี้เป็นการสอบของนักเรียนทั่วไป ซึ่งจะรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการร้อยละ 30 และนักเรียนนอกเขตบริการร้อยละ 70 ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลทราบว่ามีนักเรียนสมัครจำนวน 991 คน ซึ่งมากกว่าจำนวนที่สามารถรองรับได้ จึงอาจทำให้มีนักเรียนที่ต้องผิดหวังในการสอบแข่งขันเข้าเรียน จากการสังเกตการณ์ พบว่าในห้องสอบหลายห้องจะมีนักเรียนขาดสอบประมาณ  3 - 10 คน นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ปกครองมาร่วมให้กำลังใจบุตรหลานเป็นจำนวนมาก และวันที่ 24 มีนาคม 2567 สังเกตการณ์การสอบเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.4) ของโรงเรียนสารคามพิทยาคมซึ่งในปีการศึกษา 2567 โรงเรียนสารคามพิทยาคม มีแผนรับนักเรียนในระดับชั้น ม. 1 ห้องเรียนทั่วไป จำนวน 400 คน/ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม (SMTE) จำนวน 138 คน/ห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ จำนวน 60 คน/ห้องเรียนพิเศษกีฬา 40 คน ซึ่งห้องเรียนทั่วไป มียอดผู้สมัครในเขตพื้นที่บริการ 211 คน นอกเขตฯ 573 คน และมีนักเรียนเงื่อนไขพิเศษคือบุตรบุคลากร จำนวน 5 คน ส่วนระดับชั้น ม. 4 ห้องเรียนทั่วไป วิทย์-คณิต 320 คน คณิต-ภาษา 80 คน/ ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม (SMTE) จำนวน 138 คน/ห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ จำนวน 30 คน/ห้องเรียนพิเศษภาษาต่างประเทศ จำนวน 36 คน/ห้องเรียนพิเศษกีฬา 40 คน

     ทั้งนี้ โรงเรียนทั้ง 2 แห่ง เป็นโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง โดยการติดตาม สังเกตการณ์ดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามมาตรการในเชิงป้องกันการทุจริตเชิงรุก หากพบว่ามีการกล่าวหาร้องเรียนว่ามีการทุจริตในภายหลัง จะมีการดำเนินการในการตรวจสอบเชิงลึกตามหน้าที่และอำนาจที่กฎหมายกำหนดต่อไป

  7. จัดประชุมคณะกรรมการผลักดันฯ ต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ จังหวัดมหาสารคาม ครั้งที่ 1/2567

    วันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม 409 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับ สำนักงานจังหวัดมหาสารคาม จัดประชุมคณะกรรมการผลักดันการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ จังหวัดมหาสารคาม ครั้งที่ 1/2567 โดยมีนางสาวปราณี วงศ์บุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการประชุม ในการประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญ ๆ ได้แก่

                   (1) ผลการประเมินดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perception Index : CPI) ปี 2566 ของประเทศไทย

                   (2) รายงานความก้าวหน้าการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) จังหวัดมหาสารคาม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

                   (3) รายงานความก้าวหน้าการเปิดใช้ระบบแพลตฟอร์มต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education Platform) และการเปิดใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา จังหวัดมหาสารคาม

                   (4) รายงานผลการดำเนินการจับตามองและแจ้งเบาะแส (Watch & Voice) ของชมรม STRONG – จิตเพียง     ต้านทุจริตจังหวัดมหาสารคาม (ประธานชมรม STRONG)

                   (5) รายงานสรุปผลรวมคดี ศอตช. และข้อมูลกล่าวหา/ร้องเรียน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ท. เขต 4 (ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ท. เขต 4)

                   (6) มาตรการส่งเสริมความโปร่งใสการบริหารจัดการการดำเนินงาน กรณีโครงการอาหารกลางวันนักเรียน และโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน จังหวัดมหาสารคาม

                   (7) (ร่าง) แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ภายใต้การดำเนินงานของคณะกรรมการผลักดันการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ จังหวัดมหาสารคาม
     

                                 จึงแถลงมาให้ทราบโดยทั่วกัน

Related