Contrast
banner_default_3.jpg

มาตรการเพื่อป้องกันการทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม

จากไชต์: สำนัก มาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม
จำนวนผู้เข้าชม: 508

28/10/2565

มาตรการเพื่อป้องกันการทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม

(มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 44/2565 วันที่ 20 เมษายน 2565)


คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565

สภาพปัญหาและข้อเท็จจริง

          การจัดเก็บภาษีเป็นเครื่องมือทางการคลังที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลในการหารายได้เพื่อใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานและการสนับสนุนความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนั้นแล้ว ภาษีอากรยังเป็นเครื่องมือทางการคลังที่สำคัญของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในกรณีที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ปกติ รัฐบาลจำเป็นต้องมีการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจจากข้อมูลสถิติการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม พบว่า มีการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นจำนวนมากถึงกว่า 3.32 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้เกิดการทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นจำนวนมากตามมา โดยจากรายงานสถิติคดีศาลยุติธรรมประเภทข้อหาที่ขึ้นสู่ศาลภาษีอากรกลางเป็นจำนวนมากที่สุด คือ ข้อหาเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลกรณีร่วมกันทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จอีกหลายคดี เป็นจำนวนเงินหลายพันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันการทุจริตภาษีอากรยังคงปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง โดยบางกรณีมีการใช้วิธีการทุจริตและวิธีการใหม่ ๆ หลายรูปแบบร่วมกัน ทำให้มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น และโดยส่วนใหญ่กระทำโดยลำพังไม่ได้ แต่จะเป็นการร่วมมือกันกระทำการทุจริต ระหว่างผู้มีหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีอากรและภาคเอกชนที่ล้วนแต่มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

ข้อเสนอแนะ

          คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเห็นควรเสนอแนะให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักในการเชื่อมโยงข้อมูลกันระหว่างหน่วยงานจัดเก็บภาษี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออก ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานด้านการจดทะเบียนพาณิชย์ จัดให้มีระบบการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตที่มีประสิทธิผล มีประสิทธิภาพ และจัดให้มีสินบนนำจับในกรณีมีผู้แจ้งเบาะแสการทุจริตเกี่ยวกับภาษี
พร้อมทั้งให้กรมสรรพากรกำหนดมาตรการให้ผู้ประกอบการทุกรายต้องจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และรายงานภาษีซื้อ ภาษีขายในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มกลไกการตรวจสอบ ถ่วงดุล สอบยัน ในหน่วยจัดเก็บภาษี กรมศุลกากรควรเพิ่มกลไกการตรวจสอบเพิ่มเติมจากมาตรฐานที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบผู้ส่งสินค้าส่งออกที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการทุจริตในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงให้กระทรวงพาณิชย์และสถาบันการเงินควรมีการตรวจสอบเกี่ยวกับผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง

 

 

Related