Contrast
67a13843645745e1b209e3c6c6c38f44.png

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด อดีตรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

จากไชต์: สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครปฐม
จำนวนผู้เข้าชม: 99

11/12/2568

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด อดีตรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นไปเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย

________________________

 

คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กรณีกล่าวหาร้อยตำรวจโทประทีป ขำสาคร (ยศในขณะนั้น) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ร้อยตำรวจโท ประทีป ขำสาคร ผู้ถูกกล่าวหา ขณะปฏิบัติหน้าที่สิบเวรควบคุมผู้ต้องหา ก่อนนำผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลเข้าห้องควบคุม ได้เก็บรักษาทรัพย์สินของผู้เสียหายไว้ตามอำนาจหน้าที่ ต่อมาผู้เสียหายได้รับทรัพย์สินคืนจากผู้ถูกกล่าวหาไม่ครบถ้วน เป็นพระเครื่องจำนวน 2 องค์ ประกอบด้วยหลวงพ่อเงินและหลวงพ่อทวด ผู้ถูกกล่าวหาได้ส่งมอบพระเครื่องหลวงพ่อเงินคืนให้แก่มารดาของผู้เสียหายทางไปรษณีย์ ส่วนพระเครื่องหลวงพ่อทวดยังมิได้คืนให้

 

คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของร้อยตำรวจโทประทีป ขำสาคร ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และฐานกระทำหรือละเว้นการกระทำใด ๆ รวมทั้งไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตและเที่ยงธรรม เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี จรรยาบรรณของตำรวจ และนโยบายของรัฐบาลโดยไม่ให้เสียหายแก่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 79 (1) (5) และมาตรา 78 (1) ประกอบมาตรา 79 (6)

 

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี  และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ ร้อยตำรวจโทประทีป ขำสาคร ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา ๙1 (๑) และ (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป

 

จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 

________________________

 

หมายเหตุ: การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

Related