จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 591
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 สำนักงาน ป.ป.ช. นำโดยนายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 นายปรีชา ยาศรี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง ลงพื้นที่ร่วมกับนายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้โครงการต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG : Together against Corruption – TaC)
ในประเด็นความเสี่ยงด้านการบุกรุกพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ (การบริหารจัดการพื้นที่มรดกโลกทางวัฒนธรรม) พื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อำเภอเมืองสุโขทัย และพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
--
ประเด็นความเสี่ยงดังกล่าวมีที่มาจากเครือข่ายชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดสุโขทัย แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับบริหารจัดการพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยพบว่ามีการประกาศขายที่ดินในเขตที่สาธารณะซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และมีการบุกรุกปลูกสร้างอาคารในเขตพื้นที่อุทยานฯโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย มีกรณีการทำลายโบราณสถานแนวกำแพงเมืองเก่าเพื่อเป็นช่องทางเข้าออกที่พักอาศัย ปัจจุบันการบุกรุกขยายตัวและมีแนวโน้มมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลต่อการบริหารจัดการพื้นที่มรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ได้รับขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก (UNESCO) ภายใต้ชื่อเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร
--
จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยมีการประกาศพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ รวม 43,750 ไร่ ซึ่งกรมศิลปากรได้นำพื้นที่อุทยานทั้งหมดขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ และต่อมามีการนำพื้นที่ทุ่งพระบาทน้อยที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันขึ้นทะเบียนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) รวมทั้งมีพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์บางส่วนทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหงและป่าเขาหลวง ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อนอยู่ในความรับผิดชอบของหลายส่วนราชการ ได้แก่ กรมศิลปากร กรมธนารักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมป่าไม้ อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีราษฎรบางส่วนอาศัยอยู่ก่อนประกาศเป็นพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ และบางส่วนเป็นผู้บุกรุกรายใหม่ ที่ผ่านมาหน่วยงานในพื้นที่ขาดการบูรณาการกำกับดูแลการใช้ประโยชน์และการปกป้องรักษาพื้นที่จึงทำให้ปัญหาการบุกรุกเพื่อทำการเกษตรและการปลูกสร้างอาคารเพิ่มมากขึ้น
--
ในส่วนของพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย มีการประกาศพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ เนื้อที่รวม 28,217 ไร่ นำส่งขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุในส่วนของโบราณสถาน จำนวน 1,500 ไร่ ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นแนวยาวขนานกับลำน้ำยม มีส่วนราชการรับผิดชอบร่วมกัน ได้แก่ กรมศิลปากร กรมธนารักษ์ กรมเจ้าท่า อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปัญหาในพื้นที่เป็นกรณีการบริหารจัดการพื้นที่แนวกำแพงเมือง ซึ่งมีราษฎรอยู่อาศัยก่อนประกาศพื้นที่เป็นเขตโบราณสถาน
--
จากการลงพื้นที่ TaC Team โดยมีสำนักศิลปากรที่ ๖ สุโขทัย สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อุทยานแห่งชาติรามคำแหง สำนักงานที่ดินจังหวัดสุโขทัย สำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุโขทัย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพิษณุโลก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบข้อเท็จจริง ดังนี้
พบว่าโบราณสถานแนวกำแพงเมืองเชลียงตั้งแต่บริเวณทางเข้าวัดพระปรางค์ ปรากฏมีราษฎรสร้างที่พักอาศัยตลอดแนวกำแพงเมือง จำนวน 26 ราย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นช่องว่างระหว่างแนวกำแพงเมืองขนานไปกับลำน้ำยม พบว่าแนวกำแพงเมืองไม่สมบูรณ์ต่อเนื่องจากการถูกรื้อศิลาแลงเป็นช่องทางเข้าออกที่พักอาศัย มีราษฎรบางรายนำดินมาถมทับแนวกำแพงเพื่อเป็นช่องทางสำหรับรถยนต์เข้าออกได้ หน่วยงานในพื้นที่ยังขาดการสร้างความเข้าใจร่วมกับประชาชนในการร่วมกันดูแลรักษาโบราณสถาน จึงส่งผลให้หน่วยงานของกรมศิลปากรไม่สามารถเข้าบูรณะโบราณสถานให้เป็นแนวกำแพงเมืองที่สมบูรณ์ได้ รวมทั้ง มีกรณีผู้ประกอบการร้านอาหารร้านกาแฟในเขตพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างถาวรล่วงล้ำแม่น้ำยม
--
ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานการประชุมกำหนดข้อตกลงร่วมในการแก้ไขปัญหาความเสี่ยงด้านการบุกรุกพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ (การบริหารจัดการพื้นที่มรดกโลกทางวัฒนธรรม) พื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อำเภอเมืองสุโขทัย และพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ร่วมกับ นายวิวัฒน์ เจริญฉ่ำ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 นายปรีชา ยาศรี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดสุโขทัย นายมนตรี ธนภัทรพรชัย ผู้อำนวยการกลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๖ สุโขทัย นางธาดา สังข์ทอง ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย นายธนสิทธ์ คชศิลา หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย นางสาวพิชามญชุ์ บุญเกตุ ธนารักษ์พื้นที่สุโขทัย นายวิชัย ท้าวใจวงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติรามคำแหง นางสาวณธษา วงษ์จันทร์ เจ้าหน้าที่สอบสวนชำนาญการ ผู้แทนสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานที่ดินจังหวัดสุโขทัย สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสุโขทัย สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุโขทัย อำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอศรีสัชนาลัย ตำรวจภูธรเมืองเก่า ตำรวจภูธรศรีสัชนาลัยเทศบาลตำบลเมืองเก่า องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองเก่า และเทศมนตรีเมืองศรีสัชนาลัย โดยที่ประชุมจึงกำหนดข้อตกลงร่วมที่หน่วยงานจะรับไปดำเนินการ ดังนี้
เนื่องจากพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นพื้นที่ทับซ้อนในความดูแลของหลายหน่วยงาน อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุทั้งหมด การดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะยาวจึงต้องอาศัยการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานร่วมกัน ที่ประชุมจึงเห็นควรให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดดำเนินการตามแนวทางแก้ไขปัญหาที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแนะนำให้จัดแบ่งพื้นที่เป็น 4 ชั้น ดังนี้
ชั้นที่ 1 พื้นที่ที่ส่วนราชการใช้ประโยชน์กำหนดเป็นที่ราชพัสดุโดยสมบูรณ์ ให้กรมธนารักษ์และสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุโขทัยดำเนินการรังวัดแนวเขตและจัดทำแผนที่ มีส่วนราชการใช้ประโยชน์รวม 18 หน่วยงาน ต้องดำเนินการทำทะเบียนทั้งในส่วนของที่ดินและอาคาร กำหนดจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2565
ชั้นที่ 2 พื้นที่โบราณสถาน วัด และที่สาธารณะประโยชน์ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน ให้สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย สำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุโขทัย สำรวจพื้นที่ในส่วนที่นอกเหนือจากพื้นที่ชั้นแรก ในส่วนของกรมศิลปากรต้องดำเนินการทั้งในส่วนของพื้นที่โบราณสถานคูเมืองกำแพงเมือง และพื้นที่เขตอรัญญิกซึ่งให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัยในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ ซึ่งเมื่อทะเบียนพื้นที่และทะเบียนราษฎรมีความชัดเจน กรมธนารักษ์จะสามารถนำมาจัดพื้นที่ให้เช่าได้ ในส่วนนี้อาจต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการไม่น้อยกว่า 3 ปี
ชั้นที่ 3 เมื่อได้ข้อมูลชั้นที่ 1 ประกอบกับข้อมูลชั้นที่ 2 ให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุโขทัยนำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาเพิกถอนที่ราชพัสดุที่เคยขึ้นทะเบียนไว้ทั้งแปลง โดยปรับปรุงแนวเขตที่ราชพัสดุให้คงไว้เฉพาะที่มีการใช้ประโยชน์ของส่วนราชการ สำหรับพื้นที่ที่ส่วนราชการไม่ได้มีการใช้ประโยชน์ ผู้มีเอกสารสิทธิ์อาจเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ์เพื่อขอออกโฉนดที่ดินต่อไป
ชั้นที่ 4 การพิจารณาออกเอกสารสิทธิ์ภายหลังการเพิกถอนที่ราชพัสดุแล้ว ให้สำนักงานที่ดินจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการโดยในส่วนของวัดหากมีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทำประโยชน์เป็นวัดมาก่อนประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ อาจขอออกเอกสารสิทธิ์ได้โดยไม่ต้องแจ้ง ส.ค. 1 สำหรับในส่วนของเอกชนต้องพิสูจน์สิทธิ์เป็นรายกรณีหรืออาจขอออกเอกสารสิทธิ์ได้โดยการเดินสำรวจตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคสอง (3)
--
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. จะรายงานผลการจัดทำข้อตกลงร่วมภายใต้โครงการต้านและลดทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ฯ ในพื้นที่ภาค 6 (จังหวัดสุโขทัย) เสนอต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะติดตามความคืบหน้าของการนำข้อตกลงไปดำเนินการ เพื่อนำไปสู่การถอนหมุดประเด็นความเสี่ยงการทุจริตให้แล้วเสร็จในที่สุด
--