จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 472
ป.ป.ช. ขับเคลื่อนการเฝ้าระวัง ป้องกันทุจริต ผ่านแนวร่วมชมรม STRONG
สำนักงาน ป.ป.ช. ส่งไม้ต่อชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต เป็นหูเป็นตา เฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสทุจริตคอร์รัปชัน พบ สมาชิกมาจากภาคประชาชนที่มีความมุ่งมั่นอยากเห็นประเทศไทยใสสะอาด เผย มีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ 262 อำเภอ จาก 878 อำเภอทั่วประเทศ เดินหน้าร่วมสร้างความโปร่งใส ตระหนักรู้ถึงปัญหาและภัยจากการทุจริต
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จะอาศัยการเฝ้าระวังจากเจ้าหน้าที่รัฐแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ หากต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีข้อมูลในพื้นที่โดยตรง จึงเกิดเป็นการสร้างพลังของภาคประชาชนผ่านกลไกเครือข่าย STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ที่มุ่งเน้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและให้ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยขับเคลื่อนการทำงานผ่านชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ที่ปัจจุบันได้ขยายไปสู่กลไกการสร้างความเข้มแข็งในระดับชุมชน ที่เครือข่ายชมรม STRONG เข้ามามีส่วนร่วมในการจับตามอง และแจ้งเบาะแส (Watch & Voice) โดยเริ่มจากการสำรวจพื้นที่ เพื่อสังเกตกรณีที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริตหรือกรณีการขัดกันของผลประโยชน์ จากนั้นสมาชิกจะร่วมกันจับตามองประเด็นความเสี่ยงดังกล่าว หากพบการทุจริตก็จะแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน ป.ป.ช. และในการลงพื้นที่ร่วมติดตามการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด ในกรณีพื้นที่เสี่ยงทุจริต สมาชิกชมรม STRONG จะทำหน้าที่ร่วมสังเกตการณ์กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. อย่างใกล้ชิด ตลอดจนทำหน้าที่สังเกตการณ์พฤติการณ์เสี่ยงทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐในลักษณะต่าง ๆ เช่น การดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการจ่ายหรือเรียกรับสินบน และผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใด การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโชน์ส่วนรวม การใช้จ่ายงบประมาณและการจัดซื้อจัดจ้างที่ขัดต่อกฎหมาย
ปัจจุบันมีชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ครอบคลุมพื้นที่ 262 อำเภอ จาก 878 อำเภอทั่วประเทศ โดยเครือข่ายมีทั้งในระดับประชาชนและระดับเยาวชน โดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกันพัฒนาชุมชนให้มีความโปร่งใส ส่งเสริมการแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม และที่สำคัญคือมุ่งป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันที่ส่งผลกระทบกับการพัฒนาประเทศ ซึ่งเชื่อว่าหากประชาชนในประเทศร่วมแรงร่วมใจเป็นหูเป็นตา ตลอดจนร่วมสร้างความตระหนักในการไม่ทนต่อการทุจริต จะสามารถเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยปลอดการคอร์รัปชันในที่สุด
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. จึงขอเชิญชวนภาคประชาชนร่วมเป็นเครือข่ายในการป้องกันการทุจริตด้วยการแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ของสำนักงาน ป.ป.ช. เช่น เว็บไซต์ www.nacc.go.th หรือติดต่อที่สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทั่วประเทศ