จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 5483
เรียกรับสินบน 3 ล้าน! ป.ป.ช. บูรณาการร่วม ปปป. และ ป.ป.ท. บุกจับ ผอ.กองช่าง เทศบาลคลองหลวง พร้อมเงินสดของกลาง
วันนี้ (3 พฤษภาคม 2566) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย ผกก.2 บก.ปปป. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก. 2 บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. บุกจับกุมนายสถิต ฉ่ำแฉล้ม อายุ 50 ปี ผอ.กองช่าง เทศบาลเมืองคลองหลวง ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1
ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ภายในห้องทำงาน สำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวงอ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมประสานเชิญตัว นายเอกพจน์ ปานแย้ม อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดเดียวกัน
ตามที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ว่าได้ไปติดต่อขออนุญาตถมดินกับทางเทศบาลดังกล่าว ซึ่งเดิมทีผู้ขออนุญาตจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทั่วไปเพียงแค่ 500 บาท แต่ นายเอกพจน์ นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง กลับเรียกรับเงินผู้เสียหายลูกบาศก์เมตรละ 50 บาท จากดินที่จะใช้ถมจำนวน 60,000 ลูกบาศก์เมตร รวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น จำนวน 3,000,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายเกรงว่าหากไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องจะส่งผลกระทบต่องานที่ทำอยู่ จึงยอมจ่ายเงิน จำนวน 500,000 บาท ให้ก่อน โดยมี นายสถิต ผอ.กองช่าง เป็นคนรับเงิน และขอผัดผ่อนทยอยจ่ายส่วนที่เหลือให้ภายหลัง
หลังจากทราบเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ป.ป.ช. บก.ปปป. และ ป.ป.ท. จึงร่วมกันลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริงจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตจริง ประกอบกับ กลุ่มผู้ต้องหาได้ติดต่อให้ผู้เสียหายนำเงินสดอีก จำนวน 500,000 บาท มาส่งมอบให้ในวันนี้ ณ ห้องทำงานสำนักงานเทศบาลคลองหลวง ป.ป.ช. บก.ปปป. และ ป.ป.ท. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมขออำนาจศาลออกหมายจับ นายสถิต และเข้าจับกุมขณะกำลังรับมอบเงินของกลางได้ดังกล่าว พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืน 1 กระบอก
ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายสถิต ยังคงยืนกรานปฏิเสธ ส่วน นายเอกพจน์ เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในสำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวง ปรากฏว่าเจ้าตัวไม่อยู่ เนื่องจากไปเฝ้าภรรยาคลอดบุตร จึงประสานติดต่อให้มาเข้าพบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดเดียวกันจากกรณีดังกล่าว
ด้าน นายเอกพจน์ ปานแย้ม อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ได้เดินทางมาที่สำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวง เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. และ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป. เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” แล้ว โดยจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
………………………………………………………
“ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ”