Contrast
Font
eb0a99840340cdd0ab567e63746f9b41.jpg

สืบ ป.ป.ช. รวบอดีตหัวหน้าส่วนการคลัง อบต.หนองเทา จังหวัดนครพนม ทุจริตเงินโครงการเศรษฐกิจชุมชน เงินภาษีบำรุงท้องที่ และสั่งจ่ายเช็คโดยมิชอบ ความเสียหายรวมกว่า 16 ล้านบาท

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 957

10/10/2567

สืบ ป.ป.ช. รวบอดีตหัวหน้าส่วนการคลัง อบต.หนองเทา จังหวัดนครพนม ทุจริตเงินโครงการเศรษฐกิจชุมชน เงินภาษีบำรุงท้องที่ และสั่งจ่ายเช็คโดยมิชอบ ความเสียหายรวมกว่า 16 ล้านบาท

           เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ภายใต้การอำนวยการโดยนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 4  และนางสาวชฎารัตน์  อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 ได้มอบหมายนักสืบสวนคดีทุจริต สังกัดสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 1 และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ปฏิบัติการบูรณาการร่วม ทำการจับกุมนายพิศิษฐ บุพศิริ  บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนครพนม  ที่ 97/2563 ลงวันที่ 28 กันยายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157  ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91 

          โดยนายพิศิษฐ บุพศิริ ผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลตามหมายจับ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนการคลัง องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ได้กระทำการโดยทุจริตต่างกรรมต่างวาระ ดังนี้

  1. เบียดบังเงินที่ได้รับการจ่ายคืนในโครงการเศรษฐกิจชุมชนจากกลุ่มเกษตรกร จำนวน 178,262 บาท
  2. เบียดบังเงินภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีป้าย และภาษีบำรุงท้องที่ จำนวน 1,165 ใบเสร็จ เป็นเงิน 71,352.36 บาท
  3. ร่วมกันลงนามสั่งจ่ายเช็คโดยไม่มีฎีกาเบิกจ่ายเงิน/หลักฐานการจ่ายเงิน จำนวน 131 ฉบับ เป็นเงิน 9,333,351.67 บาท
  4. ร่วมกันลงนามสั่งจ่ายเช็คให้ร้านอ้วนคอมพ์ ซึ่งไม่ได้เป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเทาจริง จำนวน 48 ฉบับ เป็นเงิน 6,202,629.74 บาท
  5. ร่วมกันลงนามสั่งจ่ายเช็คโดยมีฎีกาให้ตรวจสอบแต่เอกสารประกอบฎีกาไม่ครบถ้วน จำนวน 9 ฉบับ เป็นเงิน 964,837 บาท

          รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน  16,750,432.77 บาท อันเป็นการดำเนินการโดยมิชอบด้วยระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการและองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเทา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2548 ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2550 หมายจับมีกำหนดขาดอายุความวันที่ 30 กันยายน 2568

        เนื่องด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายพิศิษฐ  บุพศิริ ได้หลบหนีไปยังเขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยทำงานอยู่ที่โรงงานไม้แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่อำเภอนครหลวง คณะพนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตจึงได้ร่วมกันทำการวางแผนเข้าจับกุมโดยเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณโรงงานไม้ดังกล่าวและเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งพบตัวนายพิศิษฐ บุพศิริ กำลังขับรถยนต์กระบะบรรทุกไม้พร้อมคนงานอีก 1 คน ออกจากโรงงานไม้มุ่งหน้าไปทางอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พนักงานเจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามอย่างกระชั้นชิดพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรภาชีเพื่อสกัดจับ และร่วมกันจับกุมตั ได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงภาชี หมู่ที่ 4  ตำบลภาชี อำเภอภาชี ในเวลาประมาณ 09.45 น. โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงาน จากนั้นได้แสดงหมายจับและอ่านหมายจับให้นายพิศิษฐ ฯ ฟัง นายพิศิษฐฯ รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน พนักงานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้ทราบ จากนั้นได้นำตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทำบันทึกจับกุม เก็บลายพิมพ์นิ้วมือเพื่อจัดทำทะเบียนประวัติผู้ถูกกล่าวหา/ผู้ถูกจับ รวมทั้งแจ้งการควบคุมตัวไปยังอัยการและฝ่ายปกครองและดำเนินการตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้สูญหาย พ.ศ.2565 จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป

......................................................................................

“ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ”

 

หากท่านพบเห็นการทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถแจ้งสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 1205 เว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช. www.nacc.go.th หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทั่วประเทศ

“ ซื่อสัตย์  เป็นธรรม  มืออาชีพ  โปร่งใส  ตรวจสอบได้ ”

Related