จากไชต์: วารสารวิชาการ
จำนวนผู้เข้าชม: 396
ความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของประเทศไทย[1]
การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเป็นส่วนที่มีความสำคัญสูงในการวัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน เพราะการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียจำนวนมาก โดยในปี พ.ศ. 2551 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจพบความผิดปกติในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมากที่สุด คือ การจัดทำประกาศประกวดหรือสอบราคา และเอกสารไม่เป็นไปตามแบบตัวอย่างที่กำหนด โดยกำหนดข้อความหรือเงื่อนไขที่มีลักษณะเป็นการกีดกัน ไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนถึงปัญหาความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของประเทศไทย โดยโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเป็นช่องทางสำคัญในการแสวงหาผลตอบแทนส่วนเกิน เนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในประเทศไทยมีมูลค่าสูงมาก รัฐซึ่งเป็นผู้ใช้งบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างไม่ได้เป็นเจ้าของเงินที่แท้จริง แต่เป็นตัวแทนของประชาชน จึงเกิดปัญหาของการที่ตัวแทนไม่ได้รักษาผลประโยชน์สูงสุดของเจ้าของเงิน (agency problem) ซึ่งทำให้เกิดการแสวงหาผลตอบแทนส่วนเกินโดยผู้ประกอบการที่เสนอราคา และเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง โดยจำกัดไม่ให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาด้วยวิธีการต่าง ๆ
การแสวงหาผลตอบแทนส่วนเกินในโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในประเทศไทยส่วนใหญ่เกิดขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนต้นๆ ของกระบวนการ ตั้งแต่การกำหนดคุณลักษณะ (specification) ของสินค้า หรือบริการ หรือคุณสมบัติ (qualification) ของผู้เสนอราคา ที่มีลักษณะกีดกันการแข่งขัน ซึ่งทำให้ผู้เสนอราคาซึ่งเหลืออยู่น้อยรายสามารถสมคบกันในการแบ่งตลาด หรือเสนอราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็นได้ ซึ่งทำให้ได้รับผลตอบแทนส่วนเกิน โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากกฎระเบียบตลอดจนวิธีปฏิบัติของหน่วยงานภาครัฐที่เปิดช่องให้มีการแสวงหาผลตอบแทนส่วนเกินได้โดยง่าย โดยเฉพาะระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ระเบียบพัสดุฯ) พ.ศ. 2535 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 (ระเบียบ e-auction) ซึ่งการพัฒนาแบบจำลองทางเศรษฐมิติ เพื่อวิเคราะห์ผลการเพิ่มความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐต่อการลดต้นทุนของหน่วยงานที่ทำการจัดซื้อจัดจ้าง และทำการประมาณการโดยใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูล “e-auction” ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พบว่า การเพิ่มความโปร่งใสของการจัดซื้อจัดจ้างทำให้มีจำนวนผู้เข้าทำการประมูลมากขึ้น และการแข่งขันที่เข้มข้นทำให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในโครงการก่อสร้าง ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหานี้ จึงควร
[1] สรุปจากวารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปีที่ 5 ฉบับที่ 1 (มกราคม 2555 : เขียนบทความโดย สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ และ เทียนสว่าง ธรรมวณิช)
สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.nacc.go.th/download/sakdinan_khu/y5/ton2_1.pdf