Contrast
banner_default_3.jpg

มาตรการป้องกันการทุจริตในการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง

จากไชต์: สำนัก มาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม
จำนวนผู้เข้าชม: 210

06/11/2563

วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ : 18 มีนาคม 2557

 

ความเป็นมา

 

           ด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาร้องเรียนในการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปีการผลิต 2554/55 และ ปีการผลิต 2555/56 ว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ และมีการรับจำนำในราคาต่ำกว่าราคารับซื้อของผู้ประกอบการ ประกอบกับคณะกรรมกการ ป.ป.ช. ได้มอบให้มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ศึกษาวิจัยเรื่อง “มาตรการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังเพื่อป้องกันการทุจริต” เมื่อปี พ.ศ. 2554 จากการศึกษาพบว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาการดำเนินการยังไม่มีประสิทธิภาพ เกิดปัญหาการทุจริต เป็นการสูญเสียงบประมาณเป็นจำนวนมาก 

           คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเห็นสมควรเสนอมาตรการป้องกันการทุจริตในการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังต่อคณะรับมนตรีเพื่อพิจารณา และมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ตามนัยมาตรา 19 (11) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้

 

ข้อเสนอแนะ

 

1. ยกเลิกโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังซึ่งสร้างผลตอบแทนให้แก่เกษตรกรในวงจำกัดแต่สร้างผลกำไรให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจำนวนมาก หากรัฐต้องการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทั่วถึงพร้อมกับพึ่งพิงวิธีที่ไม่ฝืนกลไกตลาดในระยะยาว  จะต้องนำการประกันความเสี่ยงด้านราคามาใช้ เป็นการประกันราคาขั้นต่ำให้เกษตรกร ทั้งนี้ ราคาประกันขั้นต่ำไม่ควรตั้งสูงจนเกินไป แต่ต้องสูงกว่าต้นทุนการผลิตโดยเฉลี่ยของเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถอยู่ได้ มาตรการดังกล่าวมีข้อดี คือ

               1.1  เกษตรกรทุกรายที่ปลูกมันสำปะหลังสามารถเข้าร่วมโครงการได้

               1.2  ลดความวิตกของเกษตรกรในเรื่องความผันผวนของราคาตลาด

               1.3 กลไกตลาดยังคงดำเนินต่อไปได้โดยไม่ถูกบิดเบือน

               1.4 รัฐไม่มีภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าจ้างแปรรูป ค่าเก็บรักษา เป็นต้น นอกจากเงินชดเชยที่ต้องจ่ายในกรณีที่ราคาตลาดอ้างอิงต่ำกว่าราคาประกัน

               1.5 รัฐไม่มีภาระในการเก็บรักษาและการระบายผลผลิตซึ่งผิดกับการรับจำนำ เพราะรัฐไม่ต้องรับซื้อผลผลิตมาเก็บรักษา จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้มาก

               1.6 ลดโอกาสการทุจริตในเกือบทุกขั้นตอนและทุกระดับ

2. สนับสนุนเงินทุนให้เกษตรกรกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำในระหว่างชะลอการขุดหัวมันไม่ให้ออกสู่ตลาดในคราวเดียวกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน

3. สนับสนุนให้มีการสร้าง Cluster มันสำปะหลังระหว่างโรงงานกับเกษตรกร เพื่อให้มีการวางแผนการผลิตและการตลาดร่วมกัน

4. พัฒนาระบบฐานข้อมูลเกษตรกรและฐานข้อมูลการผลิตอย่างเป็นระบบและมีการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อให้นโยบายการส่งเสริมหรือช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังของรัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. ถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ให้แก่เกษตรกรในการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และใช้ท่อนพันธุ์มันสำปะหลังที่ดีและวิธีการเพราะปลูกที่เพิ่มเปอร์เซ็นต์แป้งให้มากขึ้น รวมถึงการร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการให้คำแนะนำและกำหนดแนวทางเพื่อช่วยแก้ไขการระบาดของเพลี้ยแป้ง เพราะเกษตรกรไทยยังขาดแคลนการพัฒนาศักยภาพการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดต้นทุนการผลิต และยกระดับคุณภาพของมันสำปะหลั

6. ส่งเสริมการใช้มันสำปะหลังในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่สร้างมูลค่าเพิ่ม การผลิตเอทานอลเพื่อป้อนอุตสาหกรรมการผลิตแก๊สโซฮอล์นับเป็นแนวทางหนึ่งที่เป็นไปได้ การพัฒนาทางเลือกนี้จะช่วยให้เกิดความต้องการใช้มันสำปะหลัง ทำให้ราคาหัวมันสำปะหลังมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมีอุปสงค์รองรับ

 

มติคณะรัฐมนตรี

 

           คณะรัฐมนตรีได้ประชุมเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2557 ลงมติรับทราบข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการทุจริตในการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง และมอบให้คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังรับข้อเสนอไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ กรณีเรื่องใดที่จะมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ก็ให้พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมเพื่อนำเสนอคณะรับมนตรีชุดใหม่ต่อไป

ความเห็นของหน่วยงาน :

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงพลังงาน
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

 



Related