Contrast
Font
e2314d1e0a0e5e7b2b2e1c0dfd8b6622.jpg

สืบ ป.ป.ช. รวบอดีตหัวหน้าส่วนการคลัง อบต.บ้านดง จังหวัดขอนแก่น จัดซื้อรถยนต์ไม่เป็นไปตามระเบียบ และอนุมัติเบิกจ่ายเงินหลวงโดยมิชอบ เสียหายกว่า 18 ล้านบาท

จากไชต์: สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ
จำนวนผู้เข้าชม: 1426

01/11/2567

สืบ ป.ป.ช. รวบอดีตหัวหน้าส่วนการคลัง อบต.บ้านดง จังหวัดขอนแก่น จัดซื้อรถยนต์ไม่เป็นไปตามระเบียบและอนุมัติเบิกจ่ายเงินหลวงโดยมิชอบ เสียหายกว่า 18 ล้านบาท

       วานนี้ (31 ตุลาคม 2567) ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 นายวณิชย์ ศุภวณิชย์สกุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 2 นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 8 และนายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์  ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 9 มอบหมายงานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 บูรณาการงานสืบสวนคดีทุจริต ภาค 2 ภาค 8 และภาค 9 ร่วมกันสืบสวนและจับกุมตัวนางอนัญพร ดวงศรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ     ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ที่ จ.18/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 และหมายจับระหว่างพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ที่ จ.6/2565 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91 โดยมีพฤติการณ์การกระทำความผิด ดังนี้

  1. หมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ที่ จ.18/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 ในปีงบประมาณ พ.ศ.2551 องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ได้จัดซื้อรถยนต์ส่วนกลาง จำนวน 1 คัน โดยวิธีสอบราคา งบประมาณ 900,000 บาท ขณะเกิดเหตุนางอนัญพร ดวงศรี บุคคลตามหมายจับ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนการคลัง องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการกำหนดราคากลางในการจัดซื้อรถส่วนกลางดังกล่าวโดยวิธีสอบราคา ตามประกาศองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง เลขที่ 2/2551 เรื่อง สอบราคาซื้อรถส่วนกลาง ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2551 ตามประกาศดังกล่าวได้กำหนดราคากลาง ในการจัดซื้อในราคา 819,000 บาท โดยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง และนางอนัญพร ดวงศรี หัวหน้าส่วนการคลังในขณะนั้น เป็นผู้ลงนามในราคากลางตามเอกสารสอบราคาดังกล่าว โดยผู้เสนอราคาจะต้องยื่นซองเสนอราคา ภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2551 และคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาจะเปิดซองสอบราคาในวันเดียวกัน ต่อมาในวันที่ 7 สิงหาคม 2551 มีผู้มายื่นซองสอบราคา จำนวน 3 ราย คือ บริษัท อาร์เอส มอเตอร์เซลล์ จำกัด บริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด และบริษัทไอทีคอนเนอร์ จำกัด เมื่อประกาศผลการเปิดซองสอบราคาปรากฏว่าบริษัทโตโยต้า อมตะ จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ราคา 749,000 บาท คณะกรรมการเปิดซองราคาจึงมีความเห็นให้ซื้อรถยนต์บรรทุก (ดีเซล) จากบริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ได้พิจารณาอนุมัติในวันดังกล่าว องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดงได้ประกาศผู้ชนะการสอบราคาจัดซื้อรถยนต์ส่วนกลาง 1 คัน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2551 และได้มีหนังสือถึงบริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด ให้ไปทำสัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ตามหนังสือองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ที่ ขก 84202/178 ฉบับลงวันที่ 14 สิงหาคม 2551 โดยได้ทำสัญญาซื้อขายเลขที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2551 และทางบริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด ได้ทำการส่งมอบรถยนต์ในวันเดียวกันตามใบตรวจรับพัสดุ

     จากนั้นองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ได้จัดทำฎีกาเบิกเงินตามงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2551 เพื่อจ่ายเป็นค่ารถยนต์ให้แก่ บริษัท โตโยต้า อมตะ จำกัด เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551 และได้ทำการจดทะเบียนรถยนต์เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2552 ข้อเท็จจริงปรากฏว่าการจัดซื้อรถยนต์ส่วนกลางงบประมาณ 900,000 บาท นั้น ไม่ได้ตั้งเป็นงบประมาณรายจ่าย แต่เป็นการโอนงบประมาณรายจ่ายอื่น เพื่อตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่ เมื่อรถยนต์ส่วนกลางถือว่าเป็นครุภัณฑ์ จึงต้องขอความเห็นชอบให้สภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง อนุมัติก่อนถึงจะสามารถดำเนินการได้ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 ข้อ 27 แต่ปรากฏว่าในเรื่องการจัดซื้อรถยนต์ สภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 ปรากฏตามบันทึกรายงานการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง แต่การขออนุมัติจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์ส่วนกลางกลับดำเนินการขออนุมัติ และประกาศสอบราคาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2551 จึงเป็นการดำเนินการก่อนที่สภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดงจะให้ความเห็นชอบ ทั้งปรากฏว่า เมื่อพิจารณาบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ เดือนพฤษภาคม 2551 ที่ใช้อยู่ ในช่วงเวลาดังกล่าว ราคากลางสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่กำหนดตามรายละเอียดข้างต้นจะอยู่ที่ 618,000 บาท เท่านั้น  ส่วนราคากลาง ที่คณะกรรมการกำหนดราคากลางตั้งไว้ตามประกาศ คือ 819,000 บาท นั้น เป็นราคากลางของรถยนต์บรรทุก (ดีเซล) แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้การประกาศสอบราคาซื้อรถยนต์ส่วนกลางขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง เป็นการกำหนดราคาที่สูงกว่าราคามาตรฐานครุภัณฑ์ เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ต้องทำการจัดซื้อและเบิกจ่ายเงินค่ารถยนต์ส่วนกลาง (รถบรรทุกดีเซล) ตามสัญญาซื้อขายเลขที่ 2/2551 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2551 ในราคา 749,000 บาท สูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น อันเป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดงได้รับความเสียหาย

  1. หมายจับระหว่างพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ที่ 6/2565  ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 (คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 13/2565)

      ขณะเกิดเหตุนางอนัญพร ดวงศรี บุคคลตามหมายจับ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนการคลัง
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น โดยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2553 คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดตามคำสั่งอำเภออุบลรัตน์ ที่ 248/2552 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2552  ได้สอบข้อเท็จจริง กรณีพบว่ามีเงินขาดบัญชีขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 จำนวน 23,693,652.00 บาท เสร็จสิ้น โดยสรุปความเห็นและลงมติว่ามีเงินขาดบัญชีจํานวน 18,948,473.75 บาท กล่าวคือ ในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2550  ถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 นายเสถียรภาพ ภัทรประเสริฐสุขหรือประเสริฐสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ร่วมกับนางอนัญพร ดวงศรี หัวหน้าส่วนการคลัง อนุมัติ และลงนามสั่งจ่ายเช็คขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านดง โดยไม่มีเอกสารหลักฐานให้แก่นางเยี่ยมดาว วงษา เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ๕ ซึ่งมิใช่เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงินเกินกว่าความเป็นจริง อนุมัติและลงนามสั่งจ่ายเช็ค ขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านดง ให้แก่ผู้รับจ้างเกินกว่าสิทธิอนุมัติ และลงนามสั่งจ่ายเช็คขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านดง ให้แก่บุคคลอื่นๆ ซึ่งมิใช่เจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิรับเงิน และลงนามสั่งจ่ายเช็คให้แก่นางเยี่ยมดาว วงษา และบุคคลอื่นโดยไม่มีหลักฐานใด ๆ มาประกอบ โดยฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงินการฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ได้รับความเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 18,948,473.75 บาท

      ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 ประสานงานกับเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 2 ภาค 8 ภาค 9 ร่วมกันทำการสืบสวนจนทราบว่านางอนัญพร ดวงศรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ที่ จ.18/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 ผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลตามหมายจับได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร จึงได้มีหนังสือประสานงานสืบสวนคดีทุจริตภาค 8 เพื่อวางแผนลงพื้นที่สืบสวนและติดตามบุคคลตามหมายจับรายดังกล่าว โดยวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ได้พบตัวนางอนัญพรฯ อยู่ที่บริเวณริมถนนสาธารณะตรงข้ามคลินิกหมอใหญ่รักษาสัตว์ หมู่ 9 ถนนกรมหลวงชุมพร ซอย 3 ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ที่ จ.18/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 ให้นางอนัญพรฯ ดูและได้อ่านให้ฟังแล้ว นางอนัญพรฯ รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิ แจ้งพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิด และแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบดีแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร เพื่อบันทึกการจับกุม ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จัดทำทะเบียนประวัติผู้ถูกกล่าวหา/ผู้ถูกจับ และควบคุมตัวนำส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบ ภาค 4 ต่อไป

 

                  ................................................................

 

   "ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด"

Related