จากไชต์: วารสารวิชาการ
จำนวนผู้เข้าชม: 231
สังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในสังคมไทย:
วิธีการ ตัวชี้วัด ผลกระทบ และข้อคิดเพื่อการแก้ไข[1]
วิธีการคอร์รัปชันที่พบในประเทศไทยมีรูปแบบหลัก ๆ ดังนี้
ตัวชีวัดระดับคอร์รัปชันและความโปร่งใส ในระบบราชการและการเมือง (ศึกษาวิจัยในช่วงทศวรรษ 2540)
โดยทั่วไปหัวหน้าครัวเรือนไม่ประสบปัญหาด้านการคอร์รัปชันในการบริการด้านสาธารณูปโภค และอื่น ๆ ของไทยมากนัก แต่นักธุรกิจมีปัญหาหนักในหน่วยงานบางแห่งที่มีการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์มูลค่าสูงหรือมีอำนาจมากที่เกี่ยวโยงกับเรื่องที่ดิน ภาษี ศุลกากร ตำรวจ และการศาล ด้านการเมือง มีการชื้อเสียงเป็นปัญหาสำคัญ ความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง มีปัญหาโดยเฉพาะการชื้อตำแหน่ง
ผลกระทบของการมีรัฐบาลคอร์รัปชัน
การมีรัฐบาลคอร์รัปชันนำผลเสียมาสู่สังคมมากกว่าผลได้ส่วนตัวที่นักการเมืองได้รับ ผลกระทบที่เป็นรูปธรรมประเมินได้หลายรูปแบบ วิธีหนึ่งคือประเมินจากตัวเงินที่รั่วไหลออกจากงบประมาณแผ่นดิน
การทำงานของข้าราชการและนักการเมืองต่ำกว่ามาตรฐาน ประชาชนได้รับบริการต่ำกว่ามาตรฐานและถูกเอารัดเอาเปรียบจากภาคเอกชน การก่อสร้างสาธารณูปโภคมีมาตรฐานต่ำที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
ข้อคิดและคำถามสู่แนวทางแก้ไข
- คอร์รัปชันระดับล่างได้แก่ข้าราชการชั้นผู้น้อย กำจัดช่องทางสู่การคอร์รัปชันโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย กรณีตำรวจจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากตำรวจด้วยกันเอง และตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเป็นกรณีพิเศษ ปราบราคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ได้แก่การส่งส่วย สินบน จากการจัดชื้อจัดจ้าง การสมยอมในการประมูลโครงการ จัดให้มีหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนกรณีคอร์รัปชันที่มีประสิทธิภาพ
- คอร์รัปชันระดับสูงได้แก่ข้าราชการระดับสูงและนักการเมือง ส่งเสริมให้มีการใช้สิทธิของ ป.ป.ช. ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ
- ป.ป.ช. มีอำนาจมากขึ้น แต่งบประมาณจำกัด บุคลากรมีจำกัด ทั้งยังต้องการพัฒนา ?
- บางประเทศประชาชนสามารถนำเรื่องการคอร์รัปชันเสนอต่ออัยการให้ดำเนินการฟ้องร้องศาลได้โดยตรง เหตุใดประเทศไทยจึงยังทำไม่ได้ ?
[1] สรุปจากวารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปีที่ 2 ฉบับที่ 2 (มกราคม 2552 : เขียนบทความโดย ผาสุก พงษ์ไพจิตร)
สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.nacc.go.th/download/sakdinan_khu/y2/ton2_2.pdf